นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ถูกเด้งฟ้าผ่าออกจาก เลขาธิการ อย.ไปเป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) โดยเสนอเป็นเรื่องจรให้ครม.รับทราบเมื่ออังคาร 3 ก.ย.2562 ทำให้ผู้คนงุนงงว่าเรื่องใด ไม่ถูกใจรัฐมนตรีอนุทินในการขับเคลื่อนนโยบายกัฐชาหรือไม่ ก็ปรากฏว่ามีคำเฉลยแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์คณะนักข่าวที่กระทรวง เมื่อตอนเช้า 4 ก.ย.2562 ถึงเรื่องนี้ว่า
“เป็นการโยกย้ายตามวาระปกติ ในการสับเปลี่ยนหมุนเวียนระดับซี 10 เนื่องจากมีรองปลัด สธ.เกษียณ 1 ท่าน และมีอธิบดีเกษียณ 1 ท่าน ที่ต้องรีบดำเนินการ เพื่อไม่ให้งานชะงัก และจะได้รู้ตัวกันก่อนว่าอีก 2 สัปดาห์เมื่อคนเก่าเกษียณแล้วจะมีท่านใดมารับงานต่อไป คนที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ก็จะได้เตรียมตัว ผู้ใต้บังคับบัญชาจะได้เตรียมนำเสนออะไรต่างๆ ส่วนที่ให้ นพ.ธเรศ ย้ายจากเลขาธิการ อย.ไปเป็นอธิบดี สบส.เพราะเห็นศักยภาพ และเคยเป็นรองอธิบดี สบส.มาก่อน ถือว่าเป็นการกลับถิ่นเก่า ทำงานได้เลย รู้เส้นสนกลใน ก็ได้มอบหมายให้มาขับเคลื่อนเรื่องการพัฒนาศักยภาพ อสม. ค่าตอบแทน อสม. การให้ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน การสนับสนุนส่งเสริมบริการสุขภาพ อสม.มีตั้ง 1.05 ล้านคน หากพัฒนาคน 1.05 ล้านคนไม่ได้ จากศักยภาพก็จะกลายเป็นภาระ เพราะ อสม.จะมาช่วยลดภาระงานของ สธ.ในการเป็นหมอคนแรกของหมู่บ้านที่ชาวบ้านเข้าถึง จึงต้องมีความรู้พื้นฐานมาช่วยดูแลสุขภาพชาวบ้าน รวมถึงมอบเรื่องจัดการผู้รับเหมาที่หนีงานซึ่งมีเป็นสิบๆ ราย ในการเรียนหลักประกันต่างๆ คืนมา ถือเป็นงานที่มาก ส่วน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ.ที่ให้ย้ายมาเป็นเลขาธิการ อย.ก็เพราะเคยเป็นรองเลขาธิการ อย.มาก่อน เป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าที่ ผมมอบอย่างเดียวคือ อีโคโนมีออฟสปีด ทำให้เร็ว อย่าทำให้ช้า ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประขาชน เพื่อปากท้องประชาชน ขอให้ อย.เป็น อย.ของประชาชน เป็นอย.ของปากท้องประชาชน คนมารอรับการอนุมัติต่างๆ การลงทุนธุรกิจต้องการความรวดเร็ว ก็ต้องไปดูทำอย่างไรให้รวดเร็ว ถือเป็นการสลับสับเลี่ยนตามวาระ ให้มีการหมุนเวียนทำงานภารกิจของหน้าที่ นพ.ธเรศ เป็นรองปลัดแล้ว มาเป็นเลขาธิการ อย. ยังไม่มีอธิบดีนำหน้า ก็ให้ไปเป็นอธิบดี อนาคต นพ.ไพศาลก็เหมือนกัน เป็นรองปลัด มาเป็นเลขาธิการ อย. ต่อไปก็ไปเป็นอธิบดี ก็จะได้รู้งานทุกด้าน สนับสนุนบริการสุขภาพ การแพทย์ และบริหาร อีก 2-3 ปีก็จะมีคุณสมบัติมาแข่งกันเพื่อจะเป็นปลัด สธ.”
นักข่าวถามว่า คำสั่งโยกย้ายออกหลังประกาศปลดล็อกกัญชง ซึ่งฝ่ายสายเขียวกำลังโวยวายหนักว่าเป็นการล็อสเปกให้นายทุนใหญ่ แอ๊ด คาราบาว ก็โพสต์ว่ารัฐมนตรีอนุทิน ถูกหลอก ถูกวางยา และสายเขียวเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศ 30 ส.ค.2562 จงข้องใจเกี่ยวข้องกับการย้ายนี้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า
“เป็นเรื่องฟลุก กัญชาเป็นเรื่องหนึ่งใน 20-30 นโยบายของรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข มันถึงเวลาเราก็สับเปลี่ยนยืดเส้นยืดสายทำงาน ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามวาระ แทนคนเกษียณและบุคลากรที่ตนคิดว่าเหมาะสมแล้ว คิดว่าทำงานที่เป็นประโยชน์ให้กับ สธ.ได้ และเป็นการเรียนรู้งานในทุกๆ ด้าน แต่ละท่านยังมีอายุราชการอีก 3-4 ปี เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมของท่านก็จะได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมไปแข่งกันเป็นปลัด สิ่งที่ทำในวันนี้ จะทำให้คำว่า ซี10 คือ ซี 10 ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ตรวจฯ หรือสาธารณสุขนิเทศก์เท่านั้นถึงจะโต เพราะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิก็มาเป็นรองปลัดได้ เพราะฉะนั้น ทุกคนได้รับความไว้วางใจให้ทำงานให้เต็มที่ตามความสามารถ คนไปพูดว่าเดี๋ยวสายหมอชนบทอย่างนั้นอย่างนี้ ผมไม่ได้ลูบไปแล้วไม่มีหาง แล้วไปตั้งใครเสียเมื่อไร ผมดูคุณสมบัติทุกท่าน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ก็เป็น สสจ.2-3 จังหวัด แล้วมาเป็นผู้ทรงฯ เคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรี ก็มีคุณสมบัติเพียงพอเป็นรองปลัด นพ.ณรงค์ สายวงศ์ ก็เป็นรองอธิบดีกรมอนามัย มาเป็นผู้ตรวจฯ ก็ด้วยอาวุโส ผลงานต่างๆ ก็มาเป็นรองปลัด”
Matemnews.com
4 กันยายน 2562
