นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 4 ก.ย.2562
“ขณะนี้สามารถนำสารสกัดจากกัญชามาใช้รักษาผู้ป่วยได้แล้ว และมีความพยายามจัดหาแหล่งผลิตวัตถุดิบเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถผลิตสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ได้มากขึ้น ส่วนกรณีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 เพื่อปลดล็อกสารสำคัญบางส่วนของพืชกัญชาและกัญชงออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอางได้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจเป็นการเอื้อภาคเอกชน เพราะมีข้อกำหนดที่ประชาชนไม่สามารถทำได้ ก็ยอมรับว่า ผมอ่านประกาศในองค์รวม แต่เมื่อมีคนทักท้วงมาในเรื่องข้อกำหนดปริมาณสารสกัดผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้มีสอบถามไปยังผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงสอบเรื่องนี้ไปยัง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ท่านก็อาจมีเผลอไปบ้าง ก็สามารถแก้ไขได้ โดยได้มอบหมาย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปหารือกับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ในการปรับแก้ข้อกฎหมาย ซึ่งระบุการปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์กัญชงที่ต้องมีทีเอชซีไม่เกิน 0.3% เป็น 1 % ตามกฏกระทรวงเดิมเมื่อปี 2559 แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน และกลุ่มทุนสามารถเข้าถึงได้ การแก้ประกาศสามารถทำได้ ไม่ต้องทบทวนอะไร เพียงแค่เปลี่ยนตัวเลข ไม่ได้มีปัญหาอะไร หากประกาศไม่ครอบคลุม และมีผู้ทักท้วงว่าไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงและสามารถปลูกได้ ตามที่รัฐมนตรี สธ.ได้ประกาศไว้ เพราะผมเองไม่ได้มีอาชีพปลูกกัญชาขาย ยืนยันไม่ได้แก้กฏหมายเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่อยากให้ได้ผลสำเร็จ บางครั้งก็เผลอได้ เพราะอยากทำอะไรให้รวดเร็ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปลดล็อกเพื่อประโยชน์สำคัญทางการแพทย์เท่านั้น”
matemnews.com
5 กันยายน 2562