“กัญชาเสรี” นโยบายหรูของพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้ตอนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง 2562 ซึ่งวันนี้เป็นจริงแล้วในการใช้ทางการแพทย์ แต่ประชาชนยังปลูกไม่ได้ทั้งกัญชาและกัญชง เนื่องจากถูกควบคุมด้วยกฎหมายและกฎกระทรวง หน่วยงานรัฐ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย เท่านั้นที่ปลูกกัญชาได้ และวิสาหกิจชุมชนที่ถือว่าชาวบ้านมีส่วนร่วม ก็มีเพิ่งมีแห่งเดียวที่บุรีรัมย์ โดยเฉพาะคำหวานที่จะให้ประชาชนไทยปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้น ก็ยังยาวไกลมาก เพราะเตะลูกเข้าสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการเสนอเป็นร่าง พ.ร.บ.ไปแล้วก็เดินตามระบบซึ่งอธิบายไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แม้อนาคตเลือนลางแต่กระนั้นรัฐมนตรีของภูมิใจไทยก็ยังเดินหน้าอยู่ในการจัดทำหลักสูตรไว้สอนในระบบนอกโรงเรียน
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. จัดทำหลักสูตรวิชากัญชาศึกษา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่นักศึกษา กศน.ได้ตระหนักรู้ถึงโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชงอย่างถูกต้อง สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แล้ว นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.กทม.ได้จัดตั้งคณะทำงานพัฒนาหลักสูตร “กัญชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยา อย่างชาญฉลาด” ขึ้น ประกอบด้วย
นางพัชรี ศรีสังข์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
นายสังคม โทปุรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ข้าราชการบำนาญ
นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการ กศน.ทั้ง 7 เขต ได้แก่ บางรัก บางกอกใหญ่ ราษฎร์บูรณะ ประเวศ คลองสามวา บางบอน และจอมทอง
พร้อมคณะครู 30 คน และทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เภสัชกร สุภาภรณ์ ปิติพร จุรัญญา อ่อนล้อม
หลักสูตรนี้จะใช้ในการเรียนการสอนให้นักศึกษา กศน. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
นางพัชรี แถลงว่า คณะทำงานฯ ได้จัดทำหลักสูตร “กัญชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยา อย่างชาญฉลาด” ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 ในระหว่างวันที่ 7-12 ตุลาคม 2562 คณะทำงานฯ ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำหลักสูตร รายวิชาเลือก (ระยะที่ 5) ที่ จ.ปราจีนบุรี มีการกำหนดไทม์ไลน์ของการดำเนินการว่าปลายเดือนตุลาคมจะได้เล่มหลักสูตร , ต้นเดือนพฤศจิกายน ได้ตัวหนังสือ , ปลายเดือนธันวาคม ได้คู่มือการใช้หลักสูตรเพื่อกระจายไปยัง กศน.ทั่วประเทศ
ช่วงเดือนมกราคม จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2563 จะมีการเตรียมความพร้อมครูผู้สอน จะเริ่มสอนครั้งแรกในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในชื่อวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาดจำนวน 3 หน่วยกิต 120 ชั่วโมง เนื้อหาแบ่งบทเรียนออกเป็น 7 บท ได้แก่ เหตุใดต้องเรียนรู้กัญชาและกัญชง 10ชั่วโมง, กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ 20 ชั่วโมง,รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง 15 ชั่วโมง,กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง 15 ชั่วโมง,กัญชาและกัญชงกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 20 ชั่วโมง,กัญชาและกัญชงกับแพทย์แผนปัจจุบัน 20 ชั่วโมง และใช้กัญชาและกัญชงเป็นยาอย่างรู้คุณค่าและชาญฉลาด 20 ชั่วโมง
จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงทั่วโลก กัญชามีการใช้อย่างกว้างขวาง ประเทศไทยเองก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมเรื่องของการจัดทำหลักสูตรกัญชาไว้ก่อนล่วงหน้า กศน.ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่าง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงได้จัดทำหลักสูตรขึ้นมา หวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพของตนเองและครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมด้านสุขภาพพลานามัย และพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดี โดยหลักสูตรไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผลิต แต่เป็นการติดอาวุธทางปัญญา ให้กับผู้เรียนได้ตระหนักถึงคุณโทษ สามารถนำกัญชาไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แถลงว่า นโยบายกัญชาทางการแพทย์เกิดมาจากความต้องการของประชาชน ด้วยเพราะกัญชาเป็นกระแสโลกาภิวัฒน์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เปรียบเสมือนเรือที่กำลังลอยลำอยู่กลางทะเล การใช้ประโยชน์จากกัญชาก็เหมือนกระแสลมแรงที่พัดมา เราต้องพัฒนาเรือซึ่งหมายถึงคนไทยให้แข็งแรง ให้รู้จริงและเข้าใจในการใช้กัญชาอย่างถูกต้องเหมาะสม
นายสังคม แถลง ว่า มีหลักสูตรกัญชาให้ศึกษาดีกว่าให้นักศึกษาค้นหาด้วยตนเอง
matemnews.com
11 ตุลาคม 2562