ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก พิพากษาคดีนายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ ‘เสี่ยท็อป’ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับระหว่างพิจารณาศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ซึ่งหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลในปี พ.ศ.2559 ศาลแขวงพระนครเหนือจึงออกหมายจับลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ตามที่พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัวมาบังคับตามคำพิพากษาในวันนี้
คำฟ้องคดีระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 น.ส.สุภาพรณ์ อัมภาพันธุ์กิจ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ว่าได้รับการติดต่อจากนายธนณัฏฐ์ ขอซื้อคลินิกเสริมความงามชื่อ ไอซิสคลินิก ที่ น.ส.สุภาพรณ์ เป็นเจ้าของ และขายคลินิกให้แก่ นายธนณัฏฐ์ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท ต่อมา นายธนณัฏฐ์ ได้สั่งจ่ายเช็คให้แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เมื่อถึงวันฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 นายธนณัฏฐ์ ไม่มาฟังคำพิพากษา และไม่อ้างเหตุแห่งความจำเป็น โดยอ้างว่า ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย สั่งจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับให้ออกหมายจับจำเลยไว้ จากนั้นนายธนณัฏฐ์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทำให้ขาดอุทธรณ์และทำให้คดีถึงที่สุดแล้ว
ในวันนี้ศาลได้แจ้งผลคำพิพากษาให้ทราบว่า คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว และให้รับโทษตามคำพิพากษาคือ จำคุก 6 เดือน จึงต้องส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ด้านทนายความยังระบุด้วยว่า ตัวเสี่ยท็อปเองอ้างว่ามีความกังวลเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน และกังวลเรื่องเงินจากการทำธุรกิจที่จะได้รับประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นธุรกิจด้านไหน เกี่ยวกับเรื่องอะไร
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
