ตอนแรกมีข่าวว่านัดข้าราชการระดับสูงหารือเวลาบ่าย 2 โมงจันท์28 ต.ค.2562 หลังโดนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งตัด GSP สินค้าไทนย 573 รายการ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท แล้วเกิดกระแสโจมตีรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างหนัก ไม่มีฝีมือ ก็เลยทำให้ “หมอมเต่า” นั่งไม่ติด เรียกประชุมด่วนเมื่อบ่าย 27 ต.ค.2562 ที่กระทรวงแรงงาน ดินแดง
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นั่งหัวโต๊ะหารือกับข้าราชการระดับสูงนานประมาณ 45 นาที แล้วแถลงข่าว
“การที่สหรัฐฯตัดจีเอสพีไทยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิแรงงาน การตัดของทั้งไทย และต่างชาติ ไม่เป็นมาตรฐานสากล ถือเป็นเรื่องใหญ่ มีหลายมิติที่มีความเกี่ยวข้องกับประโยชน์หลายฝ่าย หลายกระทรวง ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ต้องรอท่าทีจากหน่วยงานเหล่านี้ด้วย อย่างกระทรวงพาณิชย์ที่จะมีการแถลงในวันที่ 28 ตุลาคม ถ้าทางกระทรวงพาณิชย์อยากให้กระทรวงแรงงานเข้าร่วมประชุมด้วยก็ยินดี ในส่วนของกระทรวงแรงงานก็ต้องทำในส่วนของตัวเอง กฎหมายที่เกี่ยวข้องก็เป็นมาตรฐานของไทย ต้องบอกว่าเราคงไม่สามารถไปยกเอากฎหมายสากลมาแปลใช้ได้เลย ต้องมีกฎหมายที่สอดคล้องกับบริบทของไทย ทั้งสภาพเศรษฐกิจ นายจ้าง และสภาพของคนไทยเอง แน่นอนว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เราก็ได้ให้สิทธิต่างๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องไม่ได้มากไปกว่าคนไทยเอง ที่เขาขอมาเกือบจะเป็นอย่างนั้น คนต่างด้าวที่อยู่เมืองไทยจะได้สิทธิมากกว่าคนไทย ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เช่น ที่เรียกร้อง คือ การตั้งสหภาพแรงงานแบบรวมอุตสาหกรรม จะมีการรวมตัวกันเป็นล้านคน มีอำนาจการต่อรองสูง แต่อนุโลมให้เป็นการรวมกลุ่มในแต่ละสถานประกอบการ ที่มีขนาดเล็กกว่า ควบคุมได้ง่ายกว่า ผมเชื่อว่าไม่มีประเทศไหนที่ยกเอามาตรฐานสากลมาแปลใช้กับแรงงานในประเทศของคนเองหมดเลย ต่างก็ออกกฎหมายที่เหมาะสมกับสภาพสังคม ประเทศของตัวเองทั้งนั้น”
นักข่าวถาม เป็นเพราะไทยยังไม่ได้รับรองอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ข้อที่ 87 ว่าด้วยการรวมตัว และ 98 ว่าด้วยการเจรจาต่อรองหรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคล ตอบว่า
“เรื่องนี้ก็ส่วนหนึ่ง แต่มีคนคิดถึงเรื่องอื่นด้วย เราคิดว่าเป็นเรื่องนั้น ทั้งหมดเป็นมาตรฐานสากลเราต้องเอามาตรฐานของเรา ยืนยันทุกเรื่องทางกระทรวงแรงงานดำเนินการมาตลอด บางเรื่องก็เรียบร้อยบางเรื่องก็ค้างอยู่ แต่ก็ต้องดำเนินการต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผมจะไปพูดคุยกับคนในสถานทูตอเมริกา จะเข้าไปพูดคุยกับคนที่ทำงานจริง เพราะหากเราสื่อสารกับคนที่ทำงาน เขาจะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเราสามารถแก้ไขประมาณไหน คนที่พูดคุยกับเราก็จะได้นำเรื่องไปคุยกับนายของเขาอีกที ผมจะไปเองเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ”
ถามว่า เกี่ยวกับการที่ประเทศไทยมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายในภาคเกษตรหรือไม่ เพราะสหรัฐท้วงติงให้ไทยต้องทบทวน ตอบว่า
“เราต่างก็รู้เท่ากัน ผมไม่ได้นั่งในห้องประชุม เขาทำเรื่องมาอย่างนี้ แต่ที่เห็นชัดๆ คงไม่มีใครว่าประธานาธิบดีทรัมป์นิสัยดี แต่เขามาสายธุรกิจ เป็นประธานาธิบดีคนแรก ไม่เคยเล่นการเมืองของสหรัฐ เป็นธุรกิจมาตั้งแต่วันแรก จนวันสุดท้าย และวันนี้เป็นประธานาธิบดี ผมว่าเขาก็ยังทำธุรกิจอยู่เยอะ ถูกโจมตียับเหมือนกัน แล้ววิธีกระบวนการค่อนข้างเป็นเช่นนั้น ส่วนร่างแก้พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ที่กระทรวงแรงงานเคยผลักดัน หลังผมเข้ามาก็กำลังดูอยู่ แต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นก่อน”
matemnews.com
27 ตุลาคม 2562