หลังข่าวกระหึ่ม มีประกาศพระราชกฤษฎีกาของ กอ.รมน.ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานบางพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ออกมาเมื่อตอนบ่ายแก่ 8 พ.ย.2562 หลังจากนั้นไม่นาน กอ.รมน.ก็มีการแถลงข่าว
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. แถลงข่าว ประเด็บเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เรื่องการคงมาตรการเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 9 อำเภอ ของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2562-วันที่ 30 พ.ย. 2563 นั้น
เป็นการประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ตามมติ ครม. ที่เห็นชอบเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา หรือพูดง่ายๆคือการต่ออายุการใช้กฎหมายนี้ตามวงรอบออกไปอีก 1 ปี ส่วนที่มีการเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า ไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของสงขลา ตามที่มีการนำเสนอผ่านสื่อขณะนี้ ส่วนข้อกำหนดตามมาตรา 18 (2) เป็นเพียงการให้อำนาจตามความในมาตรา18 (2) ให้สามารถประกาศเคอร์ฟิวได้ แต่ยังไม่เคยมีการใช้อำนาจนั้น เพราะยังไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เคอร์ฟิว จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขอชี้แจงสร้างความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ว่า ไม่มี!!การประกาศเคอร์ฟิว ในทุกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันว่า จะใช้มาตรการทางกฎหมายภายใต้อำนาจที่มีอยู่ด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน ปัจจุบันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้อำนาจทางกฎหมายที่มีอยู่ไม่ได้ถูกจำกัดโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล จึงไม่มีเหตุผลและความจำเป็นอันใดที่จะต้องประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ตามที่เป็นข่าว
Matemnews.com
8พฤศจิกายน 2562