ลูกก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็นภายในบ้านพักซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถยนต์ และสำหรับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุเป็นบุตรชายผู้ตาย ทราบชื่อนายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม. ยิงตัวเองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.ท่าข้าม ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น
วันนี้ (26 พ.ย.62) ที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช นายลอน เถาวัลย์ อายุ 63 ปี มีศักดิ์เป็นอา และนายวีระศักดิ์ เขียวมงคล อายุ 50 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ ผู้เสียชีวิต และมีศักดิ์เป็นลุงของนายศิระ สมเดช ลูกของน.ส.ยุรีย์ ได้เดินทางมาจาก จ.สุโขทัย ก่อนจะยื่นเอกสารให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อจะติดต่อขอรับศพเฉพาะ น.ส.ยุรีย์ เท่านั้น โดยจะนำไปประกอบพิธีที่วัดบ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ส่วนศพนายศิระ หลานชายที่เสียชีวิต ทางญาติฝั่งพ่อของน้องจะเดินทางมารับแทน คาดว่าจะนำไปประกอบพิธีที่วัดย่านดอนเมือง
นายลอน เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทราบข่าวเมื่อวานนี้ ไม่คาดคิดว่าคนทำจะเป็นลูกชายแท้ๆของ น.ส.ยุรีย์ เท่าที่ได้พบเห็นหลานชาย ก็ตั้งแต่สมัยตอนเด็กๆ เท่านั้น ซึ่งจะเจอกันบ่อยเพราะแม่ลูกคู่นี้จะเดินทางกลับมาบ้านที่ จ.สุโขทัย เป็นประจำ พอหลานชายโตขึ้น มาเรียนที่กรุงเทพฯก็ไม่ค่อยเจอกัน ซึ่งตอนเด็กหลานเป็นคนเรียบเฉย ไม่ก้าวร้าว และคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนที่ทำแบบนี้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อว่าหลานเป็นคนทำ แต่จะเชื่อพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่มากกว่า และตามที่มีเพื่อนๆของหลานมาให้การว่าหลานถนัดมือซ้ายนั้น แต่เท่าที่ตนสังเกตหลานชายจะถนัดมือขวามาตั้งแต่เด็ก ส่วนที่บอกว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่อย่างไร ส่วนตัวทราบว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลานได้เข้ารับการรักษาเกี่ยวกับอาการโรคซึมเศร้า ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โดยทางแม่มาปรึกษาตนเอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแม่ลูกมีปัญหากันหรือไม่ ตนไม่ทราบแต่อย่างใด
“ปกติแล้วตนเห็นว่าหลานชายถนัดขวา เวลาทานข้าวหรือทำกิจกรรมต่างๆ มักจะใช้มือขวาตลอด ส่วนเรื่องโรคซึมเศร้านั้น ขอย้ำว่าหลานชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจริง มีการรักษามา 2 ปี ที่ รพ.เจ้าพระยา ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุนั้นตนคิดไม่ออกว่าเกิดจากอะไร แต่ปัญหาที่ตนนึกออกมีแค่เรื่องเดียวคือ เรื่องเงิน เนื่องจากหลานชายกำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยฯ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง”
สำหรับการเดินทางมารับศพในวันนี้ นายวีรศักดิ์ ระบุว่า จะเดินทางมารับศพแค่น้องสาว เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านไร่ ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เท่านั้น ส่วนหลานชายคุณพ่อของน้องได้ประสานและตกลงกันแล้วว่าจะให้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดย่านดอนเมือง
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เผยว่า
กล่าวอีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่กิดขึ้น พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไล่กล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก ตรวจร่างกายผู้ตาย ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และตรวจเก็บ DNA เพื่อเปรียบเทียบพยานหลักฐานที่พบในตัวผู้ตาย ทั้งนี้ ไม่อยากให้ประชาชนด่วนสรุปมูลเหตุการตายในครั้งนี้ ขอให้รอรับฟังข้อมูลจากทางราชการเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนแก่ประชาชนและสังคม โดยในส่วนคดีชันสูตรพลิกศพนั้น ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ก็จะเร่งรัดดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดภายใน 30 วัน หากมีความจำเป็นในการรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ขอขยายระยะเวลาไปยังผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป จนกว่าจะได้รับผลการชันสูตรพลิกศพจากทางแพทย์
ครูสอนพิเศษยืนยัน “น้องกาย” เขียนหนังสือด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายก็เขียนได้
ขณะเดียวกัน ทางด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) ครูสอนพิเศษ และเป็นเพื่อนของแม่ผู้ตาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารู้จักกับนายศิระ สมเดช หรือ กาย มานานแล้ว เพราะเป็นครูสอนพิเศษ ทั้งนี้ส่วนใหญ่น้องกายจะเขียนหนังสือด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายก็เขียนได้ และอุปนิสัยของเขาเป็นคนน่ารัก ไม่ก้าวร้าว เหมือนปกติของวัยรุ่นทั่วๆไป ในช่วงหลังน้องกายเพิ่งมาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการปาข้าวของ แต่ยังไม่มีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่น ส่วนความสัมพันธ์ของแม่ลูกนั้น ครอบครัวนี้อยู่กัน 2 คน จึงรักกันมาก และน้องกายก็หวงแม่ เพราะมีกันสองคนแม่ลูก ส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าน้องกาย จะก่อเหตุในครั้งนี้ได้ ดังนั้นจึงขอให้รอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน