สำนักข่าวปรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่เป็นตัวแทนกระทรวงสาธารณสุขร่วมประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวานนี้ โดยตัวแทนกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ในการประชุมเมื่อวานนี้ไม่ได้ให้ยกมือ ออกเสียงเป็นรายบุคคล แต่ออกมาเป็นมติเลยว่า ให้เลื่อนการแบนพาราควอต และคลอไพริฟอส ไปอีก 6 เดือน จากมติเดิมที่จะเริ่มแบนเด็ดขาดในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และยังถอดสารไกลโฟเซต ออกจากการแบน ไปใช้ได้แบบจำกัดนั้น กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพประชาชนขอยืนยันจุดยืนเดิมคือ ไม่ยอมรับการใช้สารเคมีอันตรายที่ใช้ทางการเกษตรทั้ง 3 ตัว เพราะข้อมูลทางการแพทย์ชัดแล้วว่าก่ออันตรายทั้งทางตรงทางอ้อม ปัจจุบันมีข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายจากสารเคมีเพิ่มขึ้นชัดเจน ตัวอย่างที่จังหวัดน่าน จากที่เคยพบผู้ป่วยด้วยอาการแพ้สารเคมีและเนื้อตาย ปีละ 45 ราย ล่าสุดพบเดือนละ 25 ราย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงสุดคือ ตัวเกษตรกรเองเสี่ยงได้รับอันตรายโดยตรงหากหกรดใส่ไม่มียาใดรักษาได้ ส่วนผลกระทบที่เห็นชัดคือ ก่อโรคเนื้อเน่า ระยะยาวก่อมะเร็ง กระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม มีผลต่อประสาททำให้สมองเสื่อม ตกค้างในครรภ์มารดาทำให้ทารกพัฒนาการช้า สมองฟ่อ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานไปหมดแล้ว จากนี้สิ่งที่ทำได้คือ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ส่งเสริมป้องกันในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่พอจะทำได้ตามอำนาจหน้าที่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีมีการอ้างข้อมูลผลตรวจอาหารไม่พบสารเคมีปนเปื้อนว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เองเป็นหน่วยบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการมาตรฐานนานาชาติ ได้ออกตรวจตัวอย่างผัก ผลไม้ทั่วประเทศเอง ที่พบข้อมูลที่แย้งกับหลักฐานที่กล่าวอ้าง เฉพาะกะหล่ำปลี ที่ปกติเป็นผักห้ามใช้พาราควอต แต่กลับเจอปริมาณสูงกว่าค่ามาตรฐานที่รับได้ถึง 20 เท่า อย่างไรก็ตาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พัฒนา อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน 80,000 คน ช่วยทำหน้าที่คัดกรองเฝ้าระวังสารเคมีตกค้างในพืชผักด้วยชุดทดสอบอย่างง่ายให้เข้มข้นมากขึ้น
matemnews.com
28 พฤศจิกายน 2562
