Home ข่าวทั่วไปรอบวัน “พิชัย นริพทะพันธุ์”สอนพลเอกประยุทธ์แนวแก้เศรษฐกิจ 7 ข้อ

“พิชัย นริพทะพันธุ์”สอนพลเอกประยุทธ์แนวแก้เศรษฐกิจ 7 ข้อ

952
0
SHARE

เศรษฐกิจไทยแย่! พิชัย แนะรัฐบาลรับความจริง จี้ ลดค่าน้ำมันปรับ ครม.สร้างภาพลักษณ์นักลงทุน

BRIGHT TV

ผู้ติดตาม 3.12 ล้าน คน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยที่กำลังทรุดหนัก แต่ดูเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น อีกทั้งเกรงว่าจะไม่เพียงพอที่จะฟื้นสภาวะเศรษฐกิจของไทยที่กำลังย่ำแย่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจไทยที่ทรุดหนัก เป็นผลมาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดมาตลอด 5 ปี และยังมีแนวโน้มที่จะทรุดหนักลงไปอีก จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะมาซ้ำเติม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ได้มีการรับมือเตรียมพร้อมให้ดี คิดเพียงการแจกเงิน แม้จะถูกท้วงติงว่าจะไม่เกิดประโยชน์ แต่รัฐบาลยังคงดื้อรั้น ซึ่งผลจากจีดีพีที่ตกต่ำแสดงชัดเจนถึงความล้มเหลวของการแจกเงินสะเปะสะปะโดยประเทศไม่ได้พัฒนา

 

  1. รัฐบาลต้องยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจย่ำแย่ และเลิกโกหกประชาชน ยิ่งรัฐบาลปฏิเสธความจริงก็จะยิ่งแก้ปัญหาไม่ได้ การยอมรับปัญหาจะช่วยให้รัฐบาลหาทางแก้ไข และควรชี้แจงกับประชาชนเรื่อยๆว่าได้แก้ไขเรื่องอะไรบ้าง เพราะปัจจุบันประชาชนไม่ทราบเลยว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลทำอะไรบ้าง นอกจากแจกเงินสะเปะสะปะไปวันๆแล้วไม่ได้ผลอะไรเท่านั้น การโกหกยังทำให้คนที่เชื่อรัฐบาลต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลายเพราะไม่ได้เตรียมรับมือเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
  2. การเร่งการเจรจาการค้า ทั้งทวิภาคี และ พหุภาคี โดยนับเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่รัฐบาลจากการปฏิวัติไม่สามารถเจรจาเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆได้ เพราะกฎหมายของหลายประเทศบังคับไม่ให้เจรจากับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เมื่อเลือกตั้งแล้ว แม้รัฐบาลจะมาแบบแปลกๆ แต่ก็ควรใช้โอกาสนึ้ในการเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี ทั้งทวิภาคี และ พหุภาคี จะไปรอเพียง RCEP อย่างเดียวไม่ได้ การเจรจาเขตการค้าเสรีจะช่วยทำให้การส่งออกและการลงทุนของไทยดีขึ้น มิเช่นนั้นปีหน้าเมื่อสหรัฐตัดจีเอสพีไทยจะเริ่มถูกนำมาใช้ การส่งออกไทยจะยิ่งลดลงอีก และ เรื่องจีเอสพีนี้ก็เช่นกัน อยากให้รัฐบาลไทยเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เมื่อสหรัฐตัดจีเอสพีไทย แทนที่ไทยจะร้องครวญคราง หรือ แก้ตัวว่าเพราะไทยพัฒนาแล้ว ทั้งๆที่คนจะจนตายกันหมดแล้ว รัฐบาลควรถือโอกาสนี้เปิดเจรจาเขตการค้าเสรีทวิภาคี (FTA) กับสหรัฐเลย จะแลกเปลี่ยนหรือจะขออะไรก็ทำกันทีเดียว จะได้ไม่ต้องมาเป็นปัญหากันอีกเมื่อจะถูกตัดจีเอสพี การเจรจาทวิภาคีสามารถทำได้ทันทีกับประเทศคู่ค้าสำคัญทุกประเทศ และควรต้องเร่งดำเนินการ แทนที่จะปล่อยเฉยหลังจากเจรจาไม่ได้มา 5 ปีของการปฏิวัติ
  3. ทำเงินบาทให้อ่อนค่าลง เพื่อให้ราคาสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ อีกทั้งยังช่วยการท่องเที่ยวของไทยที่เริ่มเหี่ยวเฉาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ในขณะที่ค่าเงินของนักท่องเที่ยวอ่อนค่าลง ทำให้การมาเที่ยวไทยแพงขึ้นมากถึงสองเด้ง ซึ่งรัฐบาลต้องกำชับแบงก์ชาติให้ดำเนินการโดยด่วน หากทำไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ หากปล่อยค่าเงินบาทให้แข็งค่า ทั้งๆที่เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ เติบโตต่ำ ไม่สมเหตุสมผล โดยไทยสามารถอธิบายเหตุผลกับประเทศต่างๆถึงการที่บาทจะอ่อนค่าได้ ขนาดประธานาธิบดีสหรัฐยังตำหนิ ประธานธนาคารกลางของสหรัฐถึงขนาดเรียกว่าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของสหรัฐเลย เมื่อธนาคารกลางของสหรัฐไม่ลดดอกเบี้ยและค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าเกินไป ซึ่งรัฐบาลควรดูเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าแบบยาวนานเหมือนคนไม่รู้เรื่องเช่นนี้
  4. รัฐบาลต้องเร่งทุ่มเงินจำนวนมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆเพื่อปรับปรุงและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของไทยที่เริ่มถดถอยมาตลอด ทั้งนี้ไม่ใช่แจกเงินสะเปะสะปะเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยจะย่ำแย่ การค้าขายฝืดเคือง ประชาชนลำบากกันอย่างมาก แต่ฐานะการเงินการคลังของประเทศไทยยังแข็งแกร่ง มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในระดับสูง และยังคงมีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในระดับต่ำเพียง 40% กว่าเท่านั้น การทุ่มงบประมาณจำนวนมากของภาครัฐเพื่อพัฒนาประเทศในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เป็นเรื่องที่ควรทำและต้องทำ แต่ต้องพัฒนาความคิดให้มีการลงทุนในโครงการที่เกิดประโยชน์จริงๆ โดยจะต้องมุ่งเน้นการนำไปสู่การสร้างงาน และ การจ้างงานที่ถาวรในอนาคต เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานอย่างมากในปีหน้า
  5. ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพ โดยการลดราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท จากการลดการเก็บภาษึสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่เก็บอยู่ถึงลิตรละ 5.99 บาทในปัจจุบัน ที่ในอดีตไม่ได้เก็บ และลดราคาเบนซินลิตรละ 2 บาท จากการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตเช่นกัน การลดราคาดีเซลจะช่วยทำให้ค่าขนส่งสินค้าลดลงด้วย นอกจากนี้ จากรัฐบาลควรช่วยลดค่าเดินทางของประชาชน โดยลดค่าบริการขนส่งสาธารณะลง ซึ่งผลสำรวจบอกค่าเดินทางเป็นค่าใช่จ่ายหลักของประชาชน ดังนั้นการลดค่าเดินทางจะช่วยได้มาก อีกทั้ง การให้ใช้น้ำประปาฟรี ไฟฟ้าฟรี ในปริมาณที่จำกัดเพื่อให้ประหยัดการใช้ ก็ควรถูกนำมาช่วยเหลือประชาชนอีกครั้งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
  6. เพิ่มรายได้ประชาชน จากการเร่งสร้างธุรกิจด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ระดับยูนิคอร์น โดยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากเพื่อเพิ่มรายได้ บริษัทเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในประเทศกลุ่มอาเซียนเกือบทุกประเทศยกเว้นไทย ซึ่งทำให้มีการจ้างงานและช่วยประชาชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้มีการต่อยอดทางธุรกิจในอนาคตด้วย การแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต้องเร่งดำเนินการ
  7. เร่งสร้างความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการมี Rule of Law ที่ชัดเจน อะไรที่เคยทำในสมัยเผด็จการแล้วไม่เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก ก็ต้องเลิกทำอย่างเด็ดขาดแล้ว รัฐมนตรีคนไหนมีปัญหาภาพลักษณ์ในสายตาของประชาชนและในสายตาของนานาชาติ ก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนออกไป การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นธรรม ทั่วถึง และ โปร่งใส ทั้งนี้ต้องรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรอิสระด้วย

 

matemnews.com

28 พฤศจิกายน 2562