Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เมื่อผ้าอนามัยสตรีเป็นสงครามการเมือง

เมื่อผ้าอนามัยสตรีเป็นสงครามการเมือง

822
0
SHARE

 

 

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ  แถลงข่าวเมื่อบ่าย 16 ธ.ค.2562  ว่า

 

“ฝากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า เอาพื้นฐานความรู้อะไรตัดสินใจให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เก็บภาษีในอัตราสูงและไม่ควบคุมราคา ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีจัดให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ควบคุมราคา ไหน พล.อ.ประยุทธ์ คุยนักหนาว่าตนเองอ่านหนังสือเยอะรู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องแค่สิทธิพื้นฐานของประชากรสตรีทำไมถึงไม่ทราบ ผ้าอนามัยไม่ใช่สินค้าเครื่องสำอางหรือสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์หามาใช้เพื่อสนองความต้องการทางใจ เป็นสินค้าที่สนองความต้องการทางกายภาพของเพศหญิง ผู้หญิงทั่วโลกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมาโดยไม่มีมดลูก และประจำเดือนก็เป็นสิ่งที่ติดมาพร้อมการมีมดลูก  ผ้าอนามัยควรถูกมองว่าเป็นสินค้าจำเป็นต่อสุขภาพอนามัย ไม่ใช่คิดแค่ว่าเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของผู้หญิง รัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์มองประชาชนเท่าเทียมไม่กดขี่ทางเพศ ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของทุกเพศ ผ้าอนามัยคือสินค้าจำเป็นกับการดำเนินชีวิตสตรี รัฐบาลควรจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษี หรือแจกฟรีในสถานศึกษาทั่วประเทศ ไม่ใช่มาจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่สามารถเรียกเก็บภาษีได้ถึง 40% โดยไม่ควบคุมราคา ทำให้ในแต่ละเดือนประชากรสตรีต้องมีค่าใช้จ่ายในการในการซื้อผ้าอนามัยที่เป็นสินค้าจำเป็นต่อชีวิต 200-400 บาทใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจโดยไม่คิดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสตรี ต้องการให้ประชาชนสตรีออกไปวิ่งไล่ลุงใช่หรือไม่”

 

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงข่าว ว่า

 

“กรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษีผ้าอนามัย ไม่เคยมีอยู่ในพิกัดภาษี และตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ไม่เคยได้รับรายงานสักครั้งว่ามีเจ้าหน้าที่ไปตรวจจับโรงงานผ้าอนามัยเสียภาษีไม่ถูกต้อง โดยปัจจุบันผ้าอนามัยเสียแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % เท่านั้น ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย หรือมีเพดานการจัดเก็บภาษี 40 % ตามที่ปรากฏเป็นข่าว   สินค้าผ้าอนามัยไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็น เป็นสินค้าที่สุภาพสตรีจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นในนิยามการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย คือถ้าไม่มีใช้ก็ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าส่งผลกระทบก็ให้ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ฟุ่มเฟือย  ต้องถามว่า ผ้าอนามัยไม่ใช้ได้ไหม ถ้าไม่ใช้ไม่ได้แล้วจะมันฟุ่มเฟือยได้อย่างไร ที่ผ่านมาไม่มีในพิกัดภาษีผ้าอนามัย ประชาชนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียว เหมือนซื้อสินค้าอื่นๆ อยากจะรู้ว่า ข่าวนี้ใครคิด คิดได้อย่างไร ถ้าคนอ่านแล้วเชื่อก็บ้ากันไปใหญ่แล้ว”

 

เฟชบุ้ค พรรคพลังประชารัฐ

#ข่าวมั่วเก็บภาษีฟุ่มเฟือยผ้าอนามัย

อธิบดีกรมสรรพสามิต พชร อนันตศิลป์ ยืนยัน ชัดเจน !! ไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40% เนื่องจากสินค้าชนิดนี้ไม่ได้ถูกระบุในพิกัดการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต ดังนั้นภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ตามราคาของสินค้าเหมือนสินค้าชนิดอื่น ๆ

“สินค้าฟุ่มเฟือย หมายถึง สินค้าที่ไม่มีความจำเป็นกับชีวิต หรือไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน แต่ผ้าอนามัยจัดอยู่ในสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีการเก็บภาษีโดยใช้หลักเกณฑ์ภาษีฟุ่มเฟือย และที่ผ่านมากรมสรรพสามิตก็ไม่มีการไปตรวจจับสินค้าชนิดนี้หน้าโรงงานเพื่อคิดภาษีฟุ่มเฟือยที่แต่อย่างใด”

 

matemnews.com 

16 ธันวาคม 2562