วันที่ 7 มกราคม 2563 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมชุดสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดีลอบยิงรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเหตุเกิดภายในลานจอดรถ ย่านบางรัก เมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ม.ค. 63) โดยยืนยันว่า ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
จากการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เบื้องต้น ไม่มีประเด็นทางชู้สาว หรือความขัดแย้งทางธุรกิจ โดยวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค. 63) จะนัด พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางรัก ในเวลา 12.30 น.
ในเรื่องเส้นทางหลบหนี เบื้องต้นพบว่า เมื่อคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม เนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นซอยตัน ก่อนขับมุ่งหน้าไปทางแยกอังรีดูนังต์ และเลี้ยวซ้ายวิ่งถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาแยกสามย่าน จึงให้ฝ่ายสืบสวน ขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมต่อไป
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้น ไม่รู้ ขอให้เขารายงานมาก่อน
ด้านทนายคนดัง ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาฯ มูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ออกมาโพสต์ปมยิงรถบิ๊กโจ๊ก ว่า
” #ยิงสนั่นกลางกรุง ไม่รู้ว่าหมายเอาชีวิต หรือต้องการแค่ข่มขู่!! แต่ที่แน่ๆทราบมาว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำลังจะเรียกพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ให้ข้อมูลในเรื่องการทุจริตโครงการไบโอแมทริก และโครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะเป็นผู้เคยทำหนังสือท้วงติงให้ยับยั้งโครงการ ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่ามีคนแถวปทุมวันเกี่ยวข้องกับเงินทุจริตหลายร้อยล้านบาท ตามที่ผมได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบไป ซึ่งหากพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ไปให้ข้อมูลจริง น่าจะไปถึงคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด เว้นแต่การยิงครั้งนี้จะทำให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ไม่อยากไปให้ข้อมูล!! แต่ในความคิดผม เรื่องแค่นี้ไม่น่าทำให้หวั่นไหวได้แม้แต่น้อย
ขอให้พี่ๆสื่อมวลชนสอบถาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ในฐานะผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเหตุการณ์อุกอาจแบบนี้เกิดขึ้นกลางกรุงได้อย่างไร? และเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กำลังมีการตรวจสอบกันอยู่หรือไม่!? และถามพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ว่าพร้อมให้ข้อมูลการทุจริตในโครงการไบโอแมทริก และโครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือไม่หากถูกเรียก”