“จากการเฝ้าระวังข้อมูล 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายังไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ฯ เพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมที่ยืนยันขณะนี้อยู่ที่ 14 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 5 ราย ยังอยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศนราดูร และรพ.ราชวิถี อาการดีขึ้น ไม่มีอะไรน่ากังวล และยังขอยืนยันว่ายังไม่พบการติดเชื้อในประเทศไทยแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นผู้ที่รับเชื้อมาจากประเทศจีนทั้งสิ้น ส่วนประเทศที่มีการพบผู้ป่วยในประเทศ เป็นคนที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลยนั้นคือที่ประเทศญี่ปุ่น และเยอรมัน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสมตั้งแต่วันที่ 3 – 28 ม.ค. มี 158 ราย โดยเป็นการคัดกรองได้ที่สนามบิน 29 คน เดินเข้ามาที่สถานพยาบาลเอง 126 ราย โดยในจำนวน 158 รายนี้ ให้กลับบ้านแล้ว 62 ราย พบว่าเป็นการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ โนโรไวรัส และติดเชื้ออื่นๆ ข้อมูลเฉพาะเมื่อวันที่ 28 ม.ค. มีคนที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 22 ราย เท่ากับว่า ณ วันนี้เรามีการดูแลผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคที่มาจากหลายเมืองของจีน ไม่เฉพาะแค่เมืองอู่ฮั่นเท่านั้น การเจอผู้ป่วยเข้าเกณฑ์จะเจอได้ทุกวัน ขออย่าเชื่อข่าวลือใดๆ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามมาที่กระทรวงสาธารณสุข โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ หรือเฟสบุ๊คกรมควบคุมโรค และต้องขอความร่วมมือกับประชาชนอย่าแชร์ข่าวลือ ข่าวลวงจนทำให้เกิดความตื่นตระหนก ล่าสุดวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้ปล่อยข่าวลวงเกี่ยวกับเชื้อดังกล่าวแล้ว 7 ราย เพราะฉะนั้นขอความร่วมมืออย่าแชร์ข่าวลวง หากแชร์จะมีความผิดไปด้วย ขณะนี้เรามีมาตรการรับมือโรคดังกล่าวเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดรุนแรงเอาไว้ด้วย ระยะเวลาบอกไม่ได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ อาจจะวันนี้ พรุ่งนี้หรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่เราต้องเตรียมการเผื่อสถานการณ์เลวร้าย ในวันที่ 30 มกราคมจะมีการประชุมร่วมกับทีมที่เกี่ยวข้องในทุกจังหวัดเพื่อวางแผนรับมือการระบาดในวงจำกัด เช่นบางพื้นที่ จะทำอย่างไร แล้วถ้าขยายวงกว้างจะทำอย่างไร โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ณ ตอนนี้นอกจากการตรวจคัดกรองในนักท่องเที่ยวแล้วยังขยายการคัดกรองในคนไทยกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนด้วย อาทิ ไกด์นำเที่ยว หมอนวดไทย เป็นต้น หากคนกลุ่มนี้มีไข้ ไอ เจ็บคอ จะต้องนำเข้าระบบการเฝ้าระวังด้วย”
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุข เช้า 29 ม.ค.2563
นักข่าวถาม เนื่องจากมีการประเมินสถานการณ์อาจจะลากยาวถึง 6 เดือน ทีมควบคุมป้องกันโรคยังต้องเตรียมการอะไรเพิ่มหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ ตอบ
“ที่เราทำอยู่ตอนนี้ถือว่าเพียงพอ ทางกรมการแพทย์ และกองทัพก็ส่งบุคลากรมาเสริมการทำงานของเรา นับว่าเป็นเรื่องดี แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องการอีกมากคือเครื่องวัดอุณหภูมิมือถือ แบบที่ใช้วัดอุณหภูมิโดยไม่สัมผัสตัวบุคคล อาจจะต้องสั่งซื้อเพิ่ม ในการต่อสู้กับโรคระบาดต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในการสวมหน้ากากอนามัยให้เป็นนิสัยกันตั้งแต่วันนี้ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปในพื้นที่แออัด กรณีที่มีหลายคนกังวลว่า ทำไมถึงไม่สั่งห้ามคนจากพื้นที่ระบาดเข้าไทยขอเรียนว่า เรื่องนี้ต้องดูหลายอย่าง ตอนนี้มีจีน ญี่ปุ่น และเยอรมัน ที่พบผู้ป่วยในประเทศ องค์การอนามัยโลกระบุว่าการปิดการค้า การเดินทางเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ และตอนนี้องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่ประกาศห้ามการเดินทาง”
นักข่าวถาม จริงหรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทำงานลำบากเพราะมีการเมืองแทรกแซง นพ.ธนรักษ์ ตอบ
“ ขอยืนยันว่าทีมเฝ้าระวังควบคุมโรคของเราทำงานอย่างมีอิสระมาก ไม่มีการแทรกแซงจากภาคการเมืองเลย ในทางกลับกันยังได้รับการสนับสนุนการทำงานอย่างสะดวกมากขึ้นด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล สั่งการให้เราทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจ พวกเราเป็นนักสู้ ถ้าอนาคตจะมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงเราจะไม่ยอม เพื่อประโยชน์ของประชาชน ป้องกันไม่ให้บอบช้ำให้มากที่สุด”
matemnews.com
29 มกราคม 2563