นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ไปที่บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด (MJETS) อาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อ 13.30 น.วันที่ 1 ก.พ.2563 แล้วให้สัมภาษณ์คณะนักข่าวที่ติดตามไป ว่าด้วยความชัดเจนในการออกบินไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทจีนว่า
“เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ก.พ. ได้คุยกับอุปทูตจีนประจำประเทศไทย ขณะนี้การเตรียมความพร้อมทางฝั่งไทยเรียบร้อยหมดแล้ว ทางการจีนกำลังประสานกับสถานทูตไทย ในการส่งเจ้าหน้าที่ไปที่เมืองอู่ฮั่น ตอนนี้กำหนดไว้บินรับคนไทยในวันที่ 4 ก.พ. ถือว่าต้องพร้อมทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่อย่างนั้นจะวุ่นวาย ในวันที่ 4 ก.พ.จะรับกลับมาเลย ถือเป็นการกำหนดในส่วนของเรา ขณะที่ทางการจีนก็บอกว่าพร้อม คุยกับอุปทูตจีนด้วยความเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา ขณะนี้การควบคุมมีอยู่หลายมาตรฐาน บางมาตรฐานบอกว่าตามอาการ แต่ถ้าเกิดตอนนี้หลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก การควบคุมโรคจะต้องเข้มงวดและปูพรม ได้มีการพูดคุยกับกรมควบคุมโรค ได้ขอเช็คกฎระเบียบทุกอย่างก่อน เพราะถ้าเกิดกลับมาแล้ว ผมไปแล้วกลับมาต้องกักผมไว้ 14 วัน อย่างนี้ผมก็ไปไม่ได้แล้ว เพราะทำงานไม่ได้ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งผมก็อยากไป คนที่แจ้งความจำนงจะเดินทางกลับ ขณะนี้คนไทยอยู่ที่นั่น 160 คน เมื่อวันที่ 31 ม.ค. แจ้งเจตจำนงไว้ 130-140 คน และใครกลับมาก็ต้องดูแลหมด ถ้าจำเป็นต้องกักตัวก็ต้องกัก แต่สิ่งที่เราให้ความมั่นใจก็คือต้องทำตามมาตรฐานสากลทุกอย่าง ส่วนสถานที่ในการกักตัวหากกลับมาทั้งหมด 160 คน จะหารือกับนายกรัฐมนตรีในการประชุมสรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ที่ทำเนียบรัฐบาล 3 ก.พ.เพื่อดูว่าหน่วยงานไหนจะสามารถเข้ามาช่วยดูในส่วนนี้ได้ แต่โดยเบื้องต้นถ้ามีการกักตามอาการสถาบันบําราศนราดูร รับได้อยู่แล้ว และกระทรวงสาธารณสุขก็มีการบริการในส่วนนี้เยอะ มี 2-3 โรงพยาบาลที่รองรับในส่วนนี้ได้ และไม่ใช่กักตัวจนเขาทำอะไรไม่ได้ ดูโหดร้ายเกินไป ซึ่งต้องดูความเข้มข้นเพราะแต่ละประเทศสถานการณ์แตกต่างกัน
ผมคอนเฟิร์มจากการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศทำอย่างไม่เป็นอันหลับอันนอน บอกว่าสิ่งที่เราทำอยู่ ทำเกินหลักมาตรฐาน แต่ผมคงไม่มาพูดหรอก เราก็ทำดีที่สุด เป้าหมายให้คนไทยเกิดความปลอดภัยมากที่สุด ก็ขอให้เชื่อมั่น คนที่วิพากษ์วิจารณ์ก็อยู่วงนอก ขณะที่คนทำตามหลักวิชาการเทคนิค มาตรฐาน มีองค์ความรู้อยู่ทำงานกันอย่างเต็มที่ไม่มีเว้นตรงไหน ทั้งนโยบาย งบประมาณ พร้อมปล่อยหมด มาตรการป้องกันหลังพบว่าเชื้อมีการระบาดจากคนสู่คนในไทยแล้วนั้น คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ตามหลักป้องกัน เรื่องของโอกาสที่จะมีการติดเชื้อก็มีอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ง่ายๆเท่าไหร่ ถ้ารู้จักระมัดระวังตามหลักสุขอนามัย อย่างตอนนี้ถ้าไปแหล่งที่มีคนจีนทั้งนั้นก็ควรหลีกเลี่ยง แต่คนจีนอาจจะบอกว่าเขาผ่านการตรวจมาแล้ว ดังนั้นการจะทำอะไรต้องนึกถึงใจเขาใจเรา นึกถึงความสัมพันธ์ อย่างกรณีบอกว่าทำไมไม่ยกเลิกวีซ่า เราบอกว่าโอเค พอยกเลิกก็มีการบอกว่า ทำให้คนจีนหายไปแล้ว 80% ยกเลิกไปก็เท่านั้น จะกลายเป็นการไปซ้ำเติมความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องเปล่าๆ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนก็น้อยลงไปมากแล้ว และการตรวจสอบก็สามารถตรวจสอบหาเจอได้หมด”
matemnews.com
1 กุมภาพันธ์ 2563