Home ข่าวทั่วไปรอบวัน คนติดไวรัสโคโรนาในไทย 5 ก.พ.2563 อยู่ที่ 25 คน

คนติดไวรัสโคโรนาในไทย 5 ก.พ.2563 อยู่ที่ 25 คน

377
0
SHARE

 

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารณสุข

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 

พร้อมทีมงานและผู้เกี่ยวข้อง  ร่วมเปิดแถลงข่าวที่ศูนย์ฯ 5 ก.พ.2563 โดยนายอนุทินกล่าวว่า

 

“วันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 25 ราย แพทย์อนุญาตกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 9 ราย  ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล 16 ราย  ผู้ป่วยคนไทยที่เป็นรายแรกที่เป็นโซเฟอร์แท็กซี่ได้รับการรักษาจนหายดี และตรวจไม่พบเชื้อแล้ว ทีมแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้า​นวันนี้   ชายไทยอายุ 70 ปี ที่ขับรถบัสรับนักท่องเที่ยวจีนเดิมป่วยเป็นวัณโรค โดยเจ้าตัวไม่รู้มาก่อน และป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่วันนี้อาการดีขึ้นแล้ว สามารถใช้เครื่องช่วยหายใจน้อยลง ขณะนี้ได้มีการติดตามเฝ้าระวังสมาชิกในครอบครัว 4 คน แม้จะยังไม่ปรากฎอาการก็ตาม

 

ผู้โดยสารชาวไทยที่กลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ถึงไทยเมื่อวานนี้ ที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อ 4 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว หากอาการดีขึ้น ก็จะให้ออกไปพักที่สถานที่เฝ้ากักกันที่สัตหีบ ร่วมกับ 138 ราย และหากครบ 14 วัน ไม่มีอาการอะไร คาดว่าวันที่ 19 ก.พ.นี้ ทุกคนก็จะได้กลับบ้านไปพบครอบครัวและใช้ชีวิตตามปกติ”

 

“โซเฟอร์แท็กซี่”  คนติดเชื้อไวรัสโคโรนา ได้รับการรักษาโดยทีมแพทย์จากสถาบันบำราศนราดูร แถลงว่า

 

“รู้สึกขอบคุณ และดีใจมากที่ผมหายเป็นปกติ  ตอนที่รู้ว่าป่วย ก็รู้สึกกังวลมาก เพราะเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องหารายได้ พร้อมระบุว่า ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือรู้สึกไม่ดีต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องกัน และรายได้ของผมก็มาจากนักท่องเที่ยวเปรียบเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของผม ขณะนอนรักษาตัวอยู่ในห้องก็ได้ให้กำลังใจชาวจีนและชาวอู่ฮั่นตลอด  ขอฝากไปถึงคนขับแท็กซี่ด้วยว่า ขอให้สวมหน้ากากอนามัยเวลาที่ขับรถ เพราะเราต้องอยู่บนรถเป็นเวลานาน มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคได้เสมอ  อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยพิจารณาชดเชยรายได้ให้กับแท็กซี่ในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตแบบนี้ด้วย”

 

ผู้บริหารของสายการบินไลอ้อนแอร์ แถลงว่า  “พร้อมจะให้บริการเที่ยวบินฟรี สำหรับผู้มีสัญญาชาติไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ของจีน ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย สามารถแจ้งความจำนงได้ โดยสายการบินจะให้บริการช่วงวันที่ 5 – 8 ก.พ.นี้ ส่วนจะมีการขยายเวลาหรือไม่จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เนื่องจากต้องดูสถานการณ์  แม้จะอาศัยอยู่เมืองอื่น แต่ยังคงต้องผ่านการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรค แม้จะไม่ได้มาจากอู่ฮั่นก็ตาม”

 

นายอนุทิน แถลงว่า ตนเองได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผลิตหน้ากากอนามัย พร้อมทั้งเจลล้างมือ ให้เพียงพอต่อการต่อความต้องการใช้ของผู้บริโภคในประเทศ หน้ากากอนามัยแบบปกติก็เพียงพอสำหรับป้องกันไวรัสโคโรน่าได้แล้ว

 

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ร.ท.วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ , พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ และ นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 ร่วมแลงข่าวที่โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยสรุปว่าคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่น เมื่อค่ำวานนี้ ทีมแพทย์ได้ตรวจคัดกรองหลังลงจากเครื่องบิน พบมี 4 ราย อุณหภูมิร่างกายสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ขณะนี้รับไว้รักษาที่ห้องแยกโรคโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมการแพทย์ทหารเรือ แรกรับผลการตรวจร่างกาย 3 ราย มีอาการไข้หวัด ไอ ส่วนอีก 1 ราย มีอาการท้องเสีย ทุกรายได้รับการเอ็กซเรย์ปอด และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อ  อาการในเช้าวันนี้ รายที่ 1 เพศชาย ไม่มีไข้ รายที่ 2 เพศชาย มีอาการไอระคายคอ ไม่มีไข้ รายที่ 3 เพศหญิง มีอาการไอเล็กน้อย ไม่มีไข้ ทั้ง 3 ราย ผลเอ็กซเรย์ปอด พบความผิดปกติเล็กน้อย ส่งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ รายที่ 4 เพศหญิง เช้านี้ไม่มีไข้ ไม่มีอาการท้องเสีย ผลเอ็กซเรย์ปอดปกติ ทุกคนได้ส่งตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา วางแผนร่วมกับทีมแพทย์ทหารเรือ ในส่วนผู้ที่รับตัวไว้ที่เรือนรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 134 คน โดยมีทีมเฝ้าระวัง สังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง และวันนี้ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วจะเข้าไปตรวจเพิ่มเติม พร้อมเก็บตัวอย่างทางห้องปฏิบัติการ ส่วนระบบการสื่อสารมีพร้อมแล้วอยู่ระหว่างการพูดคุยเตรียมการกับญาติ นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมสำรองโรงพยาบาลอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมการแพทย์ทหารเรือ , โรงพยาบาลบ้านฉาง จ.ระยอง , โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 และ โรงพยาบาลชลบุรี ในกรณีที่พบผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังเพิ่มเติม  กัปตัน ลูกเรือ เจ้าหน้าที่สถานทูต และทีมแพทย์ พยาบาลที่เดินทางมาพร้อมกับเที่ยวบินนี้ ระหว่างปฏิบัติภารกิจ ทุกคนได้สวมชุดป้องกันตนเองตามมาตรฐาน ภายใต้การกำกับของพยาบาลป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ ทำให้ความเสี่ยงในการรับเชื้อจึงต่ำ ทุกคนสบายดี สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ”

 

matemnews.com 

5 กุมภาพันธ์ 25863