Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เลขาธิการ กสทช.ชี้วิธีการทำงานของนักข่าวควรเอาอย่างสื่อสหรัฐฯ

เลขาธิการ กสทช.ชี้วิธีการทำงานของนักข่าวควรเอาอย่างสื่อสหรัฐฯ

411
0
SHARE

เลขาธิการ กสทช.ชี้วิธีการทำงานของนักข่าวควรเอาอย่างสื่อสหรัฐฯ

 

เลขาธิการ กสทช. เผยแนวทางการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนอเมริกาและหลักการนำเสนอข่าวขององค์การอนามัยโลก กรณีเหตุการณ์กราดยิง และเหตุการณ์สะเทือนขวัญ พร้อมเสนอบอร์ด กสทช. พิจารณา เพื่อใช้เป็นแนวทางการนำเสนอข่าวในลักษณะนี้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า

 

จากกรณีที่มีสื่อมวลชนบางรายนำเสนอรายงานสดเหตุการณ์ที่คนร้ายกราดยิง รวมถึงการรายงานแผนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติการจับกุมคนร้ายที่ จ.นครราชสีมา สำนักงาน กสทช. ตระหนักถึงความเสียหายจากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ในลักษณะดังกล่าว

 

เมื่อได้ศึกษาข้อมูลที่มีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะเดียวกันของสื่อมวลชนในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา กรณีเหตุการณ์ยิงกราด เหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างๆ และหลักการนำเสนอข่าวสารลักษณะนี้ของสื่อมวลชนที่องค์การอนามัยโลกได้เคยให้ไว้ พบว่า

 

หลายประเทศมีการเลิกนำเสนอรูปคนร้ายในสื่อ เลิกการรายงานสดเหตุการณ์ ยกเลิกการนำเสนอคลิปเหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างๆ แล้ว

 

เพราะในต่างประเทศมีผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา และอาชญาวิทยา ออกมาเตือนถึงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารแบบนี้ว่านำไปสู่พฤติกรรมการเลียนแบบ ซึ่งจากผลการศึกษาจำนวนมากพบว่า ข้อสันนิษฐาน ข้อสังเกตที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา และอาชญาวิทยาเหล่านั้น ออกมาเตือนนั้นเป็นความจริง

 

นายฐากร กล่าวว่า ผมเห็นด้วยกับแนวทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ยิงกราด เหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกาและองค์การอนามัยโลกข้างต้น ที่การนำเสนอข่าวสารเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ควรมีการนำเสนอภาพคนร้าย รายละเอียด แผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คลิปเหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างๆ เพราะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารดังกล่าว จะทำให้คนร้ายทราบข้อมูลในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบให้เจ้าหน้าปฏิบัติงานได้ยากขึ้น ทำเหตุการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

 

และไม่ควรนำเสนอข่าวถี่จนเกินไป ไม่ควรลงข่าวโดยใช้พาดหัวตัวโตๆ ในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่นำเสนอข่าวดัดแปลงให้มีลักษณะน่าตื่นเต้น เร้าใจ ไม่ชี้แจงรายละเอียด ลงลึกในรายละเอียดทุกขั้นตอนว่าฆ่าตัวตายยังไง ไม่ลงรูป หรือลงคลิปมาก โดยเฉพาะกรณีการนำเสนอข่าวบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าวมากเป็นพิเศษ

 

นอกจากนั้นยังไม่ควรลงชื่อคนร้ายในสื่อ หรือลงให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่าให้พื้นที่สื่อกับคนร้าย อย่าขุดคุ้ยเรื่องราวของคนร้ายมานำเสนอ ให้คนสนใจ ตื่นเต้น จนเกินเหตุ เพื่อให้ขายข่าวได้ และอย่าลงการแถลงคำพูด คำสารภาพผิดของคนร้าย ต้องไม่ให้ความสำคัญกับคนร้าย จนคนร้ายกลายเป็นฮีโร่ และจะนำแนวทางดังกล่าว เสนอที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาใช้เป็นแนวทางในการทำข่าวลักษณะนี้ต่อไป

 

นายฐากร กล่าวว่า จากเหตุการณ์การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนบ้านเราบางช่อง โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์บางสถานี ตั้งแต่ครั้งนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายของ อาจารย์สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง จนกระทั่งการรายงานสดเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมาในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ กระทบต่อจิตใจของประชาชนผู้รับชมข้อมูลข่าวสาร ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ รวมถึงอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ โดยมองแบบผิดๆ ว่าเป็นฮีโร่ การกระทำดังกล่าวทำให้ตัวเองโด่งดังได้ ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นในสังคมไทยได้ ผมเห็นว่า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และสังคมไทยไม่ควรเกิดเหตุการณ์การสูญเสียเช่นนี้อีกแล้ว การนำเสนอข่าวสารต่างๆ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนมุมมองใหม่ ไม่ใช่นำเสนอในแนวที่เสมือนให้ผู้ชมอยู่ในเหตุการณ์อย่างเดียว แต่ต้องคิดถึงผลจากการนำเสนอข่าวสารในรูปแบบนั้นๆ ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างด้วย

 

ดังเช่นกลยุทธ์การนำเสนอข่าวของสหรัฐอเมริกา อย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าสื่อมวลชนบ้านเราควรนำมาปรับใช้ คือ การกระทำของคนร้ายในแง่ลบเสมอ และเน้นย้ำถึงความน่าอับอายและขี้ขลาดของการกระทำของคนร้าย อย่าลงข่าวถึงเหตุผล หรือตรรกะ จนละเอียดยิบว่าทำไมคนร้ายลงมือก่อเหตุ เพราะคนร้ายคนต่อๆ ไป มันจะรู้สึกว่าเรื่องราวที่ดู หรืออ่านจากการนำเสนอข่าวคล้ายกับตัวเอง และอย่านำเสนอข่าวเหตุการณ์เช่นนี้นานไป อย่ามีการนำเสนอคลิปเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ควรนำเสนอข่าวสั้นๆ กระชับ และอย่านำเสนอข่าวในรูปแบบอนิเมชั่น หรือนำเสนอเป็นรายงานข่าว จำลองเหตุการณ์ให้ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก จนอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

 

matemnews.com 

10 กุมภาพันธ์ 2563