Home ข่าวทั่วไปรอบวัน คนจากเรือ Westerdam ถ้ามาไทยเจอตรวจยิบ

คนจากเรือ Westerdam ถ้ามาไทยเจอตรวจยิบ

435
0
SHARE

 

 

การแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัส Covid 19 ที่ศูนย์ฉุกเฉินกระทรวงวสาธารณสุข 14 ก.พ.2563 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า

 

“ขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ ยอดผู้ป่วยสะสมมีทั้งสิ้น 33 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย เป็น 13 ราย เหลือรักษาใน รพ. 20 ราย  อาการผู้ป่วยโดยทั่วไปดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 รายตั้งแต่แรกรับที่สถาบันบำราศนราดูร คือ มีอาการปอดบวมรุนแรง และอีกรายมีโรควัณโรคร่วม โดยในรายที่มีอาการปอดบวมรุนแรง ได้รักษาตามมาตรฐาน แต่ผลการรักษายังไม่ค่อยดีเท่าไร จึงได้รับความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยใส่เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจหรือเครื่องเอคโม (ECMO) และใช้เครื่องช่วยหายใจ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. อาการโดยทั่วไปก็ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือดก็ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องมือที่ รพ.ราชวิถี เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยที่อาจมีอาการหนักด้วย สำหรับภาพรวมสถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างดี อัตราการเจ็บป่วยอยู่จากเดิมเป็นอับดับ 4 ก็ลงมาเป็นอันดับ 6 ของโลก  กรณีเรือเวสเตอร์ดัม ที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ขณะนี้เราได้รับรายชื่อลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด และประสานกับสำนังกานตรวจคนเข้าเมือง และด่านควบคุมโรค ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศในการคัดกรองผู้ที่มีรายชื่อเหล่านี้ และได้ทำเกินกว่านี้ คือ สายการบินอะไรก็ตามที่มาจากกรุงพนมเปญ ถ้ามาสู่ประเทศไทยจะคัดกรองเหมือนกับมาจากอู่ฮั่น หากมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยก็จะเอาเข้าระบบตามปกติ และที่ชายแดนจะคัดกรอง 100% ส่วนคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่น โดยอยู่ในช่วงกักโรคที่สัตหีบ วันนี้ถือเป็นวันที่ 10 ของการเฝ้าระวัง มีผู้ป่วยยืนยันแค่รายเดียว ก็อาการดีปกติ ไม่มีไข้ ไอ น้ำมูก ส่วน 137 คนก็สบายดีไม่มีไข้ ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มเติม”

 

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า

 

“ขณะนี้ได้รายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือเวสเตอร์ดัมแล้ว แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนไทย ที่เป็นนักท่องเที่ยว 2 ราย และลูกเรือ 19 ราย รวม 21 ราย สถานทูตกัมพูชาและกรมการกงสุล ได้ประสานงานแผนการเดินทางอยู่ ส่วนอีกกลุ่มรายชื่อส่งให้ ตม.และด่านควบคุมโรคแล้ว ไม่ว่าจะมาด่านบก อากาศ หรือเรือ ก็จะคัดกรอง แต่ย้ำว่าไม่ใช่การตีตรา  หรือเลือกปฏิบัติ เราเข้มเพราะอาจมีความเสี่ยงเพิ่มเติม”

 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ. แถลงว่า

 

“กรณีคนจีนที่ไม่สามารถข้ามผ่านแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังด่านโก๊กโก่ ซึ่งเป็นจุดข้ามไปฝั่งพม่า โดยเป็นพื้นที่ที่จีนได้ก่อสร้างและทำเป็นนิคมเป็นเมืองขึ้นมา เพื่อให้คนจีนไปพักอาศัย โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง  คาดว่าจะมีคนอยู่ในนั้นประมาณ 2-3 หมื่นคน เรื่องนี้สืบเนื่องจากช่วงตรุษจีน ที่ให้คนจีนข้ามผ่านแดนมา แต่ไม่สามารถกลับไปได้ เพราะบริษัทเกรงกลัวเรื่องโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา19 โดยให้ขอใบรังรองแพทย์จากฝั่งไทยและต้องครบ 14 วัน ก่อนผ่านแดน จึงกลายเป็นข่าวขึ้นมา  จากการสอบถามนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก พบว่า มีคนที่ข้ามผ่านแดนตั้งแต่ช่วงหลังตรุษจีนประมาณ 6 พันกว่าคน ส่วนด่านธรรมชาติคือด่านโก๊กโก่ผ่าประมาณหลักร้อย  ผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการปิดด่านพรมแดนธรรมชาติตรงนี้แล้ว และให้ผ่านจุดผ่านแดนตามสนามบินหรือทางบกทั้งหลาย ที่มีเครื่องเทอร์โมสแกน  ได้ดำเนินการคุมเข้มมาตั้งแต่ตรุษจีน แต่กำลังจะหาข้อมูลคนจีนใน อ.แม่สอด ที่ยังไม่สามารถกลับไปได้เท่าไร เท่าที่ทราบก็ยังมีการพักค้างในโรงแรม ไม่ได้มีภาวะอะไรน่าตกใจ ส่วนเคสที่มีเข้าข่ายเฝ้าระวังสอบสวนโรค ขณะนี้มีเพียง 2 รายและผลแล็บก็ออกมาเป็นลบ”

 

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย แถลงว่า

 

“ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย มีมาตรฐานในการป้องกันฝุ่นขนาด 3 ไมครอน และจับอนุภาพละอองฝอย น้ำมูก น้ำลาย จากการไอจามได้มากกว่า 95% ขนาดของละอองฝอยการติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา19 มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน การใช้หน้ากากอนามัยเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากาก N95 ส่วนหน้ากากผ้ามีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่และละอองฝอยได้ ซึ่งมีการวิจัยทดสอบของหน้ากากผ้า  เป็นการเย็บประกับ 2 ชั้น พบว่า หน้ากากผ้าสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 1 ไมครอนได้ 60% แต่ละอองฝอยที่ออกมาจากผู้ป่วยมีขนาด 5 ไมครอน ดังนั้น กลุ่มปกติ แข็งแรงดี หากต้องเข้าพื้นที่เสี่ยง แออัด และไม่แน่ใจว่าระยะรอบตัว 1 เมตรมีใครมีภาวะเจ็บป่วยหรือไม่ สามารถใช้หน้ากากผ้าป้องกันตัวเองได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ  การคัดกรองผู้เดินทางมาจากสิงคโปร์และฮ่องกง  มาตรการของเราสามารถดำเนินการได้เองอย่างเข้มข้น เพียงแต่ว่าจะประกาศหรือไม่ประกาศก็อีกเรื่อง โดยประเทศที่มีความเสี่ยงหรือผู้ป่วยมากๆ ภาพโดยรวมถ้าเข้ามาก็คัดกรองที่เกต  ถ้าหลุดออกมาก็จะคัดกรองก่อนเข้า ตม. และอีกชั้นคือที่จุด ตม. และแจ้งผู้ประกอบการท่องเที่ยว สถานที่พัก เฝ้าระวังกลุ่มคนเหล่านี้พิเศษ”

 

 

 

matemnews.com 

14 กุมภาพันธ์ 2563