วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส รายงานว่า นายศรัณย์ เจริญสุวรรณและภริยา พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยประจำกรุงปารีสและสำนักงานที่มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศฝรั่งเศส และข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้เดินทางไปยังเมืองแบรสต์ (Brest) ซึ่งเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ทางตะวันตกของฝรั่งเศส เพื่อเตรียมการและเข้าร่วมพิธีประดิษฐานรูปปั้น เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ที่เมืองแบรสต์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาปานเป็นโครงการริเริ่มโดยสมาคมครูสอนภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย (สคฝท.) เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 333 ปีราชทูตสยามเยือนฝรั่งเศส ซึ่งคณะราชทูตได้ขึ้นท่าที่เมืองแบรสต์ ก่อนเดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2229 และได้เดินทางกลับสยามเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2230 โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือเมือง Brest เช่นกัน
ปัจจุบัน นับได้ว่าเมืองแบรสต์ เป็นเมืองที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมิตรภาพของไทยและฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากที่สุดในฝรั่งเศส นับแต่การตั้งชื่อถนนสายหลักของเมืองว่าถนนสยาม ตั้งชื่อสถานีรถ Tramway ว่าสยาม และมีหุ่นจำลองของคณะราชทูตที่พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง (พิพิธภัณฑ์ Tour Tanguy) และยังมีรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาปานตั้งอยู่ด้วย โดยเมืองแบรสต์ได้เสนอให้ประดิษฐานรูปปั้น ที่หัวมุมถนน Louis Pasteur ตัดกับถนน Ducouëdic ซึ่งเป็นจุดที่โกษาปานได้ขึ้นท่าที่เมืองแบรสต์เมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว และยังเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรผ่านจำนวนมากเนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานีรถกระเช้าไฟฟ้าเพื่อข้ามฝั่งไปยัง les ateliers des capucins ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะจัดกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมืองแบรสต์
กิจกรรมต่าง ๆของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ได้เริ่มขึ้นจากพิธีประดิษฐานรูปปั้นโกษาปานเวลา 11:00 น.โดยมีบุคคลสำคัญของฝรั่งเศสเข้าร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นาย François Cuillandre นายกเทศมนตรีของเมืองแบรสต์ นาย Ivan Bouchier รองผู้ว่าการจังหวัด Finistère นาย Thierry Mathou อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส และยังมีประชาชนชาวไทยซึ่งเดินทางมาจากทั่วทุกหนแห่งในฝรั่งเศสและจากประเทศไทยเข้าร่วมงานด้วย เคียงข้างกับชาวเมืองแบรสต์อีกเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้รำกลองยาวไปจนถึงที่ทำการเมืองแบรสต์เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งมีการแสดงวัฒนธรรมของไทยจากกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร และมีการสาธิตการนวดไทยซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโกเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอขอบคุณชาวไทยในฝรั่งเศสที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้และได้ช่วยสนับสนุนการจัดงาน ขอขอบพระคุณสมาคมครูสอนภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์ธิดา บุญธรรม อุปนายกสมาคมฯ และเมืองแบรสต์ซึ่งได้ร่วมแรงกันจนงานสำเร็จได้ในวันนี้ รวมทั้งคณะกระทรวงวัฒนธรรม และทุกท่านที่ได้เดินทางมาจากประเทศไทย และได้เป็นสักขีพยานของช่วงเวลาที่สำคัญอีกช่วงหนึ่งของมิตรภาพไทย-ฝรั่งเศส โดยเชื่อมั่นว่ารูปปั้นโกษาปาน จะเป็นหลักฐานของมิตรภาพไทย-ฝรั่งเศสตลอดไป