“มาดามน้อง”โดน …การซื้อเครื่องตรวจใบหน้าคน – พลเอกประยุทธ์ชี้แจงทันที
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อนเองวันที่ 3 เวลา 09.45 น. 26 ก.พ.2563 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปราย โครงการจัดซื้อเครื่องไบโอแมทริกซ์ การตรวจลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ว่า
มีความผิดปกติตั้งแต่สัญญาทีโออาร์ครั้งแรก ที่ตั้งงบไว้เพิ่ม 1,735 ล้านบาท แต่ได้ยกเลิกไป และออกสัญญาทีโออาร์ครั้งที่สอง โดยตั้งงบเพิ่มไว้ 2,126 ล้านบาท และให้เหตุผลที่ยกเลิกครั้งแรก เนื่องจากไม่มีผู้รับเหมา อีกทั้ง กำหนดว่าไม่ต้องมีการค้ำประกันและไม่ต้องมีผลงานมาก่อน เรื่องนี้ถ้าไม่มีผู้ใหญ่สั่งการ ทำไม่ได้ อีกทั้งยังมีการต่อรองขยายเวลาส่งมอบงานให้บริษัทในครั้งที่ 4 ถึงครั้งที่ 6 อีกด้วย ในทีโออาร์ครั้งที่สองเป็นการร่วมกันของเป็นบริษัทร่วมค้า MT ระหว่างบริษัท เอ็มเอสซี สิทธิพล จำกัด กับบริษัท ไทยทรานมิชชั่น อินดัสทรี จำกัด แต่ปรากฏว่ามีการส่งงานล่าช้า จนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เสนอให้หน่วยงานราชการบอกเลิกสัญญากับกิจการร่วมค้านี้ และล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.62 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้แก้ไขสัญญาและเปลี่ยนแปลงสินค้าหลายรายการ สาระสำคัญคือ นอกจากไม่ยกเลิกแล้วยังให้แก้ไขสัญญาในสาระสำคัญ มีการเปลี่ยนยี่ห้อจากของเยอรมันเป็นของอีกบริษัทหนึ่ง จากการตรวจสอบราคาหน้าเว็บไซต์สามารถซื้อได้ 113 ล้านบาท แต่กลับมีการตั้งราคาสูงถึง 714 ล้านบาท เท่ากับว่าเกิดส่วนต่างของการจัดซื้ออุปการณ์การจัดเก็บข้อมูล มีเงินหายไป 600 กว่าล้านบาท ซึ่งนายกฯต้องรู้ว่าเงินหล่นไปไหน บริษัท เอ็มเอสซี มีซีอีโอชื่อ ดร.วัชรี พรรณเชษฐ์ เป็นเจ้าของเดียวกับบริษัทวี สมาร์ท จากนั้น บริษัทนี้ได้เข้าร่วมกับบริษัท ไทยทรานมิชชั่น แต่มีคนอยู่เบื้องหลังเชื่อมทั้งสองบริษัทนั้นอยู่ ซึ่งบุคคลทั้งหมดอยู่ใน หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่น 15 มีทั้ง วัชรี, นายวัฒน์ชัย วิลัยลักษณ์ เจ้าของบริษัท สามารถ และ นายประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตรองผบ.ตร. บุคคลเหล่านี้อยู่รุ่นเดียวกับมาดาม นายกฯเป็นคนที่แฟมมารี่แมน แต่ท่านไม่เหมาะสมเป็นนายกของไทย แต่เชื่อในความเป็นผู้นำครอบครัวของท่าน สิ่งที่อยากถาม คือ มีข่าวออกมาตลอดว่าสัญญายกเลิกไม่ต้องมีค้ำประกัน ไม่ต้องมีเงินประกัน ไม่ต้องมีผลงาน บอกให้ยกเลิกสัญญา เครื่องไม่ดี เครื่องมีข้อบกพร่องก็ยังให้ต่อสัญญา ถึงเวลาจะต้องปรับอีก 500 ล้านบาท ก็ไม่ต้องปรับ เขาก็อ้างว่ามีมาดามหลังทำเนียบฯ ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นอาจารย์น้องที่ผมเคารพนับถือ อาจารย์ไปต่างประเทศไปที่ไหนผมยกย่องเป็นกุลสตรี เป็นแบบอย่างที่ดีของสตรีไทย ผมเห็นท่านไปไหนก็พามาดามไปด้วย ผมดีใจเพราะจะได้ดูอบอุ่นเป็นครอบครัว เป็นผู้นำประเทศที่น่ายกย่อง แต่สิ่งที่ออกมาอย่างนี้นายกฯต้องชี้แจง ผมไม่ไว้วางใจจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตอบสังคมยาก เพราะผลประโยชน์อยู่ที่ไหนใครได้ และที่สำคัญคือ ชัดว่ามาดามน้อง ก็เป็น บยส.รุ่น 15 หมายเลข 35 แต่ผมไม่ได้กล่าวหาท่าน เพราะนายกฯชี้แจงได้ คนไปกล่าวอ้างก็จะใช้คอนเน็คชั่นเหล่านี้ มีอยู่จริงคนบางคนที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เข้าไปเรียนทุกหลักสูตร แต่ไม่ตั้งใจเรียน แต่เข้าไปคอนเน็คชั่นอย่างเดียว และวันนี้ใคร ๆ ก็อยากเรียน วปอ. เพราะทหารเป็นใหญ่ ทหารมีอำนาจ สั่งการได้ทุกอย่าง เข้าไปเรียนเพื่อต้องการใช้คอนเนคชั่นของผู้มีบารมี ศิษย์เก่าและผู้ใหญ่ในบ้านเมือง โครงการนี้เป็นโครงการที่บกพร่อง มีนอกมีใน ทำให้รัฐเสียหายแน่นอน ดังนั้นหลังจากที่อภิปรายจะร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเกี่ยวกับมาดามที่มีอิทธิพลหลังทำเนียบฯหรือไม่ ไม่ทราบ แต่นายกฯผิดพลาดแน่นอน คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เพราะตม.บอกให้ยกเลิกก็ไม่ยกเลิก แล้วยังเพิ่มเงินให้เขาอีก ยกเว้นข้อกำหนดจำนวนมาก ที่สำคัญเครื่องมือ ไบโอแมทริกซ์วันนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะมีการพูดถึงคดีวันเอ็มดีบี ข่าวบอกว่าคู่กรณีผ่านด่านตลอด มีหมายจับจากมาเลเซีย เราก็ไม่จับเขา ให้เข้าออกบ้านเราหลายครั้ง ที่สำคัญมีหมายจับแดงจากสิงคโปร์ก็ไม่จับ ปล่อยให้เข้าออกหลายครั้ง ที่สำคัญโครงการนี้ นายกฯถูกกล่าวหาเสียหายไปทั่วโลก ผมก็ยังไม่เชื่อ ขอให้นายกฯใช้โอกาสนี้ชี้แจง เพราะท่านอยู่ไม่ได้ อยู่ได้ถึงปี 63 ก็เก่งมากแล้ว ผมได้ข้อมูลมาว่า มีนาย พ. มีบริษัทชื่อ ส. กับ ข. ชื่อจริง นามสกุลจริง อยู่ที่ผม สิ่งที่ตกใจมากกว่านั้นคือ มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีหมื่นกว่าล้านบาท มาอย่างไร มาจากวันเอ็มดีบีหรือไม่ ซึ่งบัญชีอยู่ที่ผม เงินหมื่นกว่าล้านบาทมาได้อย่างไร เพราะกฎธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า หากมีการโอนเงิน 2 ล้านบาท ต้องแจ้งที่มาที่ไปด้วย แต่นี่หมื่นกว่าล้านบาท บริษัทเดียว คนๆ เดียว เบอร์บัญชีก็มี เอามาทำอะไร แบบนี้ประเทศอยู่ได้หรือ ผมจึงนึกถึงว่าเป็นไปได้หรือไม่เลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นเงินเหล่านี้หรือไม่”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยกมือประธานอนุญาตให้อภิปราย
“โครงการนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเป็นเงินงบประมาณที่ได้มาจากเงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมือง ที่ผ่านมาสตม.ใช้ระบบคัดกรองผ่านระบบลายนิ้วมือเป็นหลักแต่ต้องมีการเปลี่ยนมาเป็นลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า เป็นระบบทั่วโลกหลายประเทศได้ใช้ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาความคุ้มค่าก่อนการอนุมัติให้ใช้เงินแล้ว สตช.ทำสัญญากับกิจการค้าร่วมเอ็มที และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับเพื่อใช้ในราชการแล้วตั้งแต่เดือนส.ค. 2562 และมีการติดตั้งจำนวน 1,843 ชุด ขอความเป็นธรรมว่าในเรื่องของการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนั้นก็มีหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันแล้วจะต้องไปร่วมกระทำความผิด ถ้ามาเหมากันแบบนี้ผมคิดว่าหลายคนที่หนีไปก็มีเพื่อนร่วมรุ่น หมายความว่าจะต้องผิดทุจริตกันหมดอย่างนั้นเหรอ ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาผมเป็นอาจารย์มาก่อนและเตือนผมเสมอในเรื่องการทุจริตมาตลอด การส่งมอบงานล่าช้านั้นมีปัญหาส่วนหนึ่งจากหน่วนงานเองด้วย โดยช่วงที่มีการกำหนดการส่งมอบงานปรากฎว่าเมื่อจะต้องมีการติดตั้งสัญญาณเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกลับไม่สามารถดำเนินการได้ ไปจนถึงสถานที่ในการดำเนินการก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการติดตั้ง ซึ่งเป็นความบกพร่องของฝ่ายเราเองด้วย ผมเคยจำได้ว่ามีการตรวจสอบการจัดซื้อรถถังโดยหน่วยงานของรัฐ มีการบอกว่าราคาในเว็บไซต์ถูกกว่า แต่การซื้อของแบบนี้จะซื้อผ่านทางเว็บไซต์ไม่ได้ เพราะการทำสัญญาจัดซื้อนั้นจะต้องซื้อระบบด้วย ที่แพง คือ ระบบ ระบบมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ขายมาให้ก็ทำไม่ได้ ดังนั้น การดำเนินการต่างๆเป็นไปตามกติกา กรณีที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงราคาของเครื่องเปล่าเท่านั้น จะต้องมีซอฟแวร์ด้วยถึงจะทำงานได้ และซอฟแวร์ใหม่จะต้องเชื่อมกับซอฟแวร์เดิมด้วย สรุปแล้วการจัดซื้อของจะต้องรวมการติดตั้งและการรับประกันด้วย การดำเนินการจัดซื้อทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากจะมีมาดามคนใดไปยุ่งเกี่ยวก็ต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยา เวลานี้มีคนอ้างชื่อนายกฯ รองนายกฯเป็นจำนวนมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ถ้าอยากรู้ว่านายกฯสั่งการจริงหรือไม่ให้ถามที่ผมเองได้ เวลานี้มีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด อย่างเมื่อวานที่มีการพูดจาในเรื่องนี้ ผมกราบเรียนว่าเราจะต้องสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการติดตามและตรวจพบว่า ใครด่ากันไปด่ากันมา เป็นการไม่ดีเลยที่มีการปลุกระดมคนให้มาทะเลาะกัน ผมจะตรวจสอบด้วยว่าบางพรรคก็ทำ ทำเยอะด้วย ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกันหมด ไม่ได้ขู่ใครแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เรื่อง 1MDB ผมไม่อยากไปก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมยืนยันว่ามีสองคนที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งคนรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีการอ้างว่ามีหมายแดง และเข้าออกประเทศไทยนั้นได้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการพบว่าหมายแดงได้ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นได้มีการเข้าออกประเทศเหมือนกับบุคคลทั่วไปเพราะยังไม่มีหมายแดง และวันนี้สิงคโปรต้นทางที่ออกหมายแดงก็ได้ยกเลิกหมายแดงไปแล้ว และข้อสำคัญ คือ คนที่เข้าออกประเทศไทยคนนี้เขามีสิทธิของเขาพอสมควรเหมือนกัน จากบัตรอีลิทการ์ด ไม่รู้ว่าใครทำให้เขา บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีกัน เพราะเสียหายต่อความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าท่านชอบเหลือเกินในการที่จะทำให้ต่างประเทศลดความเชื่อมั่นผมและประเทศไทย แต่ไม่เป็นไรครับผมทนได้ ขอบคุณครับ”
matemnews.com
26 กุมภาพันธ์ 2563