วันที่ 12 มี.ค.2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเทดรอส อะดานอม เกเบรเยซุส ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศยกระดับให้การระบาดของเชื้อ COVID-19 เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก หรือ Pandemic หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อนอกจีนพุ่งสูงถึง 13 เท่าในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์ นอกจากนี้นายเทดรอสยังแสดงความวิตกอย่างมากต่อระดับความนิ่งเฉยต่อวิกฤตไวรัส
นายเทดรอส กล่าวอีกว่า การประกาศให้การระบาดเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก ไม่ได้หมายความว่าองค์การอนามัยโลกเปลี่ยนแปลงคำแนะนำที่ให้กับประเทศต่างๆ ในการรับมือการระบาด พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศดำเนินมาตรการเชิงรุกและเร่งด่วนในการต่อสู้กับไวรัส ขณะที่หลายประเทศแสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมไวรัสได้
การยกระดับการระบาดขององค์การอนามัยโลกมีขึ้นในขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เตือนว่าประชากรในประเทศร้อยละ 70 จากจำนวนทั้งหมด 58 ล้านคน อาจติดเชื้อ COVID-19 ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในเยอรมนีล่าสุดเพิ่มจาก 1,296 คนเป็น 1,567 คน
องค์การอนามัยโลกยังแสดงความวิตกอย่างมากต่อสถานการณ์การระบาดในอิหร่าน จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งสูงกว่า 9,000 คน และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 354 คน โดยองค์การอนามัยโลกได้จัดส่งอุปกรณ์ตรวจเชื้อไวรัส จำนวน 40,000 ชุดไปให้อิหร่านแล้ว แต่ยังขาดเครื่องช่วยหายใจและออกซิเจน
ส่วนการระบาดในภาพรวม ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งสูงกว่า 115,800 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ราว 1,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4,200 คน
