วันที่ 22 มีนาคม 2563 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหลายร้อยคนทุกวันในอิตาลี แพทย์บอกว่าพวกเขาต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะรักษาคนไข้คนไหนต่อและคนไหนต้องปล่อยให้เสียชีวิตไป เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงที่โลกไม่ได้เกิดสงคราม
“ถ้าคนไข้อายุระหว่าง 80 ถึง 95 ปี และมีอาการหายใจลำบาก มีแนวโน้มว่าแพทย์จะไม่รักษาต่อ” ดร.คริสเตียน ซาลาโรลิ หัวหน้าฝ่ายฉุกเฉินที่โรงพยาบาลในเมืองแบร์กาโมของอิตาลี ให้สัมภาษณ์ นสพ. Corriere della Sera
“นี่เป็นคำพูดที่ฟังดูแย่ แต่มันเป็นความจริง เราไม่อยู่ในสถานะที่จะไปนั่งรอปาฏิหารย์ได้”
วิกฤตไวรัสโคโรนาในอิตาลีเลวร้ายที่สุดรองแค่จากจีน โดยตอนนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 4,032 คนแล้ว ข้อมูลโดยสหประชาชาติระบุว่า อิตาลีมีประชากรสูงอายุมากที่สุดรองจากจีน นั่นหมายความว่ามีความเสี่ยงอาการทรุดสาหัสได้ถ้าติดเชื้อ
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ดร.ดาเนียล มาชินี จากแผนกห้องไอซียูที่เมืองแบร์กาโมเขียนข้อความซึ่งถูกตีแผ่ไปอย่างกว้างขวางในทวิตเตอร์ บอกเล่าว่าทีมของเขาเหมือนเผชิญกับ “สึนามิ” อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับช่วยเรื่องการหายใจอย่างเช่นเครื่องช่วยหายใจกลายเป็นสิ่งเหมือนค่าเหมือนทอง
เขาบอกว่าผู้ติดเชื้อมากขึ้นทุกวัน มีคนถูกนำมาส่งโรงพยาบาลวันละ 15-20 คนจากสาเหตุการป่วยเดียวกัน
“เพื่อนร่วมงานเราบางคนติดเชื้อและก็พาเชื้อไปติดญาติ และญาติพวกเขาบางคนก็ต้องต่อสู้กับความเป็นความตาย”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิตาลีลุยจิ ดิไมโอ ขอให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของสหภาพยุโรปช่วยประสานขอทรัพยากรจากโรงพยาบาลและคลินิกจากทั่วยุโรป
แต่เขาก็เริ่มเห็นสัญญาณบวก ไม่มีรายงานการติดเชื้อใน 10 เมืองทางตอนเหนืออิตาลีที่เป็นเขตฉุกเฉิน
“อิตาลีเป็นชาติยุโรปชาติแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง แต่ผมหวังว่าจะเป็นอิตาลีชาติแรกที่ผ่านพ้นสถานการณ์ฉุกเฉินไปได้”
