เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2564 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร และคณะ ลงตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวน 1,200 คน ภายในตลาดกลางกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนสีขาวที่ยังไม่เคยพบเชื้อเลย
โดยมีทีมงานของคณะแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาคร บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ อสต. ได้ร่วมกันดำเนินงานฯ เพื่อเป็นการหาผู้ที่ติดเชื้อครั้งสุดท้าย แล้วจะได้นำออกมากักตัวอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อและผู้ที่ผ่านการกักตัวครบ 10 – 14 วัน ตามระบบสาธารณสุขแล้วนั้น ก็ยังคงพักอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้งต่อไป และสามารถที่จะใช้ชีวิต หรือทำงานได้ตามปกติเมื่อตลาดกลางกุ้งเปิดค้าขายได้อีกครั้งหนึ่ง
โดยทางด้าน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร กล่าวว่า การตรวจหาเชื้อครั้งนี้เป็นรอบสุดท้ายที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหาผู้ติดเชื้อที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หากพบก็จะนำเข้าสู่ระบบควอรันทีน ในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ที่มีเพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในตลาดกลางกุ้ง ซึ่งก็ยังไม่สามารถที่จะบอกจำนวนที่ชัดเจนได้ แต่คาดการณ์ว่าอาจจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจำนวนที่ไม่มากนัก ดังนั้นหลังจากนี้เมื่อเราคัดแยกผู้ติดเชื้อออกไปแล้ว ก็จะมีการพิจารณาให้ตลาดกลางกุ้งสามารถเปิดทำการค้าขายได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นไปภายใต้มาตรการและหลักเกณฑ์เข้มข้นตามที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้อีกครั้ง ส่วนมาตรการภายนอกนั้น ก็ยังคงใช้มาตรการเชิงรุกในการเข้าตรวจพื้นที่หรือกลุ่มเสี่ยง หากพบก็จะนำเข้าสู่การควอรันทีน เช่นกัน แต่ถ้าส่วนไหนที่มีผู้ติดเชื้อเพียงแค่ 2 – 3 ราย ก็จะสามารถพิจารณาให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจะต้องมีการประชุมพิจารณากันต่อไปเป็นระยะๆ
ส่วนด้านนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ก็กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ในครั้งนี้ คาดว่าอาจจะพบผู้ติดเชื้อไม่มากนัก โดยหลังจากที่ทำการสวอปแล้ว ก็จะนำเข้าไปตรวจแล็บของโรงพยาบาลสมุทรสาคร ทำให้ทราบผลที่รวดเร็วขึ้น ส่วนผลที่ออกมานั้นก็จะทยอยออก แล้วแจ้งให้สาธารณสุขรับทราบ คาดว่าภายใน 2 – 3 วัน ก็จะทราบผลครบทั้งหมด ขณะที่วิธีการตรวจแรงงานข้ามชาติทั้ง 1,200 คน ได้ใช้วิธีการตรวจ Swap โดยมีรถพระราชทาน เก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 1 คัน เข้าร่วม และนอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างเลือดของทุกคน ไปตรวจหาภูมิคุ้มกันเชื้อโควิด 19 อีกด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในนั้น แรงงานข้ามชาติทุกคนต่างมาเฝ้ารอที่จะรับการตรวจหาเชื้อ เพราะทุกคนต้องการที่จะกลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนขั้นตอนก็เริ่มจากการยื่นเอกสารพาสปอร์ต , ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ Swap , ตรวจหาเชื้อโดยเจ้าหน้าที่ จากนั้นลงทะเบียนอีกครั้งเพื่อเข้ารับการตรวจเลือด เสร็จแล้วทำการเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกัน เป็นอันเสร็จสิ้น
