ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักมากบางแห่งและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
พายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้
แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 57,003 ล้าน ลบ.ม. (69%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 50,251 ล้าน ลบ.ม. (70%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 17 แห่ง (บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างฯ แม่มอก อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน อ่างฯป่าสักชลสิทธิ์ อ่างฯ ทับเสลา อางฯ กระเสียว อ่างฯ จุฬาภรณ์ อ่างฯ อุบลรัตน์ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน อ่างฯ ลำนางรอง อ่างฯ ขุนด่านปราการชล อ่างฯ นฤบดินทรจินดา และอ่างฯ หนองปลาไหล)
กอนช. ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 13-20 ต.ค.64 ดังนี้
* เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม บริเวณภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ภาคใต้ จ.ระนอง และพังงา
* เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง และสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น บริเวณแม่น้ำมูล อ.ประโคนชัย อ.สตึก อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ แม่น้ำป่าสัก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี แม่น้ำลพบุรี อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี แม่น้ำท่าจีน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย
มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กม. ทางตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลง ทำให้ภาคตะวันออก เฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบกับในช่วงวันที่ 12 – 16 ต.ค. 64 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
– จังหวัดจันทบุรี เกิดสถานการณ์น้ำหลากในหลายพื้นที่ คาดว่าปริมาณน้ำจากตอนบนของลุ่มน้ำ จะเคลื่อนตัวถึงเมืองจันทบุรี
ในวันนี้ ส่วนปริมาณน้ำบริเวณ อ.มะขาม มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรี ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 30 ซม.
– เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปรับเพิ่มการระบายน้ำโดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากอัตรา 100-300 ลบ.ม./วิ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 13 ต.ค. 64 เป็นต้นไป เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 ม.
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด