.
1. #กินอาหารให้หลากหลาย – เน้นไปที่ผักและผลไม้สดทุกวัน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตหลักเช่น ข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสี แป้งโฮลวีท ธัญพืชทั้งเมล็ดและถั่วชนิดต่าง ๆ และไม่ลืมโปรตีนหลัก ได้แก่ ปลา เนื้อ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม
ประโยชน์ของอาหารที่หลากหลาย เป็นตัวเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุจำเป็น ผักผลไม้และธัญพืชให้เส้นใย , ถั่วให้แร่ธาตุและวิตามินอี , รวมถึงอาหารที่มีวิตามินซีสูง วิตามินดี และสังกะสี
.
2. #ลดเค็ม – จำกัดการบริโภคเกลือและเครื่องปรุงรส ลดลงวันละน้อยกว่า 5 กรัม (1 ช้อนชา) ต่อวัน เริ่มต้นง่ายๆก่อนเช่น เคยใส่น้ำปลาใส่เกลือมากแค่ไหน ลองค่อยๆลดลงครึ่งหนึ่ง หรือ ปกติชอบกินอาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป ก็ลองหันมากินอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ดูบ้าง
การได้รับโซเดียมปริมาณสูงเป็นเวลานานจะส่งผลต่อระดับความดันโลหิต โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต เบาหวาน และอัมพฤกษ์อัมพาต
.
3. #ลดหวาน – จำกัดการบริโภคน้ำตาล ของหวานและเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลมากเกินควร เช่น น้ำผลไม้ น้ำเกลือแร่ ชา กาแฟ นม หากลดปริมาณลงได้บ้าง ก็จะดีต่อสุขภาพ ส่วนน้ำผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำส้ม มะม่วง ลองหันมาเลือกกินผลไม้สดหลังอาหารแทน เลือกผลไม้ที่ไม่หวานมาก และสแน็คธัญพืช ดาร์กช็อกโกแลต ชาสมุนไพร
.
4. #กินไขมันและน้ํามัน ในปริมาณที่พอดี – เลือกไขมันดีมีประโยชน์แทนเนย มาการีน และมันหมู เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว ฯลฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม สามารถเลือกนมพร่องไขมัน เมื่อจะกินเนื้อให้ตัดไขมันออกบ้าง เลือกเนื้อปลาแทนเนื้อแดง หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารที่ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เพราะมีไขมันทรานส์ และเมื่อจะปรุงอาหารให้เลือกวิธีอบหรือนึ่งแทน
วิธี : เลือกกินอาหารที่มีไขมันคุณภาพ และระมัดระวังในการเลือกซื้ออาหาร โดยอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด หากมีไขมันอิ่มตัวมากกว่า 5 กรัม ต่อปริมาณอาหาร 100 กรัม หรือ 2.5 กรัม ต่อมิลลิลิตร จะถือว่ามีไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 1.5 กรัม ต่อ 100 กรัม หรือ 0.75 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร
.
5. #หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ – โดยปกติเครื่องดื่มมึนเมาไม่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว นอกจากผลเสียหายระยะสั้น-ยาวต่อตับ โรคหัวใจ มะเร็ง และบุหรี่ส่งผลเสียต่อปอด ยิ่งเสี่ยงเป็นอันตรายขั้นรุนแรง ในช่วงการระบาดของโควิด-19 นี้อีกด้วย
.
6. #ดื่มน้ำให้เพียงพอ – เว็บไซต์ pobpad.com ระบุว่า การดื่มน้ำมากหรือน้อยเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ปริมาณแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น กิจกรรมที่ทำ เพศและอายุ โดยปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสม มีดังนี้
อายุ 4-8 ปี 5 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,200 มล.)
อายุ 9-13 ปี 7-8 แก้วต่อวัน (1,600-1,900 มล.)
อายุ 14-18 ปี 8-11 แก้วต่อวัน (1,900-2,600 มล.)
ผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป 9 แก้วต่อวัน (ประมาณ 2,100 มล.)
ผู้ชายที่อายุ 19 ปีขึ้นไป 13 แก้วต่อวัน (ประมาณ 3,000 มล.)
.
ที่มา : FB World Health Organization (WHO) / Website bangkokbiznews.com
#TIPlife #ThePowerBesideYou
#พลังที่เคียงข้างคุณตลอดไป #ทิพยประกันชีวิต
#Lifestyle
