ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆสำหรับดิจิทัลทีวี หลังจากเคยสร้างปรากฎการณ์ทอร์ก ออฟ เดอะทาวน์จาก รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซั่น1 ที่ทำเรตติ้งสูงถึง 13.371 สูงกว่าละครหลังข่าวของช่อง 3 และช่อง 7 เสียอีกเลยส่งผลให้ช่องเวิร์คพอยท์กลายเป็นช่องที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับวงการโทรทัศน์บ้านเรา เรทค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็สูงขึ้น เรียกได้ว่ากำลังมือขึ้นสุดๆ หลังจากจบซีซั่นที่1 เวิร์คพอยท์ก็ไม่รอช้าสารต่อความแรงทันทีส่ง The Mask Singer ซีซั่นที่2 ลงจอทันทีในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมปีที่แล้ว ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆน่าจะเป็นวิสัยทัศน์นี้ที่คุณปัญญา นิรันทร์กุลมองเห็นเลยจัดหนักไม่ต้องพักกินกันไปยาวๆว่างั้น แม้ในซีซั่นที่ 2 เรตติ้งจะลดลงไปบ้างก็ไม่ว่ากันเฉลี่ยแล้วซีซั่นที่2 อยู่ที่ 7.311ถือว่ายังพอใช้ได้ ยังไม่พอขอต่อ The Mask Singer ซีซั่นที่3 ลงจอต่อทันทีแม้เรตติ้งจะลดลงเรื่อยๆแต่โฆษณาก็ยังคงเข้าอย่างต่อเนื่องด้วยบารมีเก่าของซีซั่นที่1 ที่ทำไว้ดีเกินคาดเลยส่งผลให้ซีซั่นต่อมาได้รับอนิสงฆ์บุญไปด้วยเฉลี่ยเรตติ้งซีซั่นที่ 3 อยู่ที่ 3.579 ยังๆยังไม่พอขอต่อซีซั่นที่ 4 ต่อเลยและซีซั่นนี้เองที่ทำให้เราเห็นถึงความเบื่อหน่ายของคนดูเพราะเล่นมีติดต่อกันถึง 4 ซีซั่นตัวเลขเรตติ้งลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายการอื่นๆที่คาดหวังไว้สูงอย่าง the x factor ก็ทำเอาทีมเวิร์กพอยท์เงิบอยู่พอสมควรกับเรตติ้งดิ่งเหวที่ 1.309
ที่ผ่านมา รายการ I can see your voice นักร้องซ่อนแอบ และ The Mask Singer แม้ว่าจะมีเรตติ้งลดลงไป แต่ทั้งสองรายการ ยังคงเป็น “รายการหลัก” ให้กับช่องเวิร์คพอยท์ สร้างเรตติ้งสม่ำเสมอในผังวันพุธ และพฤหัส ทุกสัปดาห์เรื่อยมา แต่เมื่อละครไทยเริ่มมาแรงแต่สองรายการหลักก็ยังคงเอาอยู่ กระทั่ง“บุพเพสันนิวาส” ที่ช่อง 3 จัดลงผังวันพุธและพฤหัส ออนแอร์เท่านั้น ทั้งสองรายการหลักของเวิร์คพอยท์ก็ต้องมีอันสั่นกันเลยทีเดียว