พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.แถลงแก่ผู้สื่อข่าวที่ บก.ทบ. เมื่อตอนเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2561 ความคืบหน้าการตรวจสอบการโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่ ติดเชิงดอยสุเทพ ว่า
ความเป็นมาโครงการดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2540 โดยสำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ได้ทำเรื่องขอกองทัพบกใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว เบื้องต้นกองทัพบกไม่ได้อนุมัติ และมีการทำเรื่องมาอีกครั้งในปี 2546 ทางกองทัพบกจึงอนุมัติไปเมื่อเดือนก.พ. 2547 ให้ใช้พื้นที่ได้จำนวน 147 ไร่
ต่อจากนั้นทางกระทรวงยุติธรรมได้เข้าไปทำโครงการการก่อสร้างบ้านพักและสำนักงานโดยเริ่มโครงการเมื่อปี 2556 แบ่งเป็น 4 ระยะ คือระยะที่ 1 และระยะที่ 2 เดือนก.พ.-ก.ย. ปี 2556 วงเงิน 665 ล้านบาทเป็นการก่อสร้างบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 13 หลัง
ระยะที่ 3 เดือนม.ค. 2557 เป็นการก่อสร้างสำนักงานที่ทำงานอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 จำนวนเงิน 290 ล้าน
ระยะที่ 4 ปี 2559 วงเงิน 61 ล้านเป็นอาคารสำนักงานของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ทั้งหมด
กรณีนี้เป็นโครงการที่ทำมาตั้งแต่ปี 2556 จนมาถึงปัจจุบัน เมื่อมีการร้องเรียน ตนก็ได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่ 3 ลงไปดำเนินการตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 -24 มี.ค.2561 สรุปได้ว่า การก่อสร้างบ้านพักนั้นอยู่ในกรอบ 147 ไร่ ที่ได้ขออนุมัติไว้ และไม่มีบริเวณไหนที่รุกล้ำไปในเขตอุทยานดอยสุเทพ ยืนยันว่ากรอบการสร้างยุติลงแค่นี้ แต่ยังมีพื้นที่ในส่วนของ 147 ไร่ที่ขอไว้แต่ยังไม่ได้มีการสร้าง สำหรับขั้นตอนต่างๆ ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง เพราะฉะนั้น งานใกล้เสร็จแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ จะปิดงาน 1-2 เดือนข้างหน้า เมื่อตรวจสอบแล้วทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายก็อนุญาตให้ดำเนินการต่อได้จนจบโครงการ
ส่วนความไม่สบายใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ต้องมีการพูดคุยกันระหว่างส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับการยอมรับกันมากที่สุด โดยฝ่ายทหารจะช่วยอำนวยความสะดวก ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าว กองทัพบกได้ส่งคืนราชพัสดุไปแล้ว ส่วนการใช้งานก็ไปว่ากัน ไม่ใช่กองทัพบกไปอนุมัติให้สร้าง กองทัพบกคืนพื้นที่ให้ราชพัสดุที่เป็นผู้ดูแล เมื่อส่วนราชการมีความต้องการใช้แล้วขอใช้ กองทัพบกก็คืนไป เพียงแต่กองทัพบกไม่ได้เป็นคนอนุมัติให้จัดสร้าง กรณีดังกล่าวเดินมาไกลแล้ว จะทำอย่างไรให้ยอมรับกันได้และไม่เสียหายมากนัก เพราะใช้งบประมาณลงไปพอสมควร ตอนนี้พอมีเวลาพูดคุยกัน อยากให้หน่วยงานในพื้นที่และประชาชนจ.เชียงใหม่ได้พูดคุยกัน และหาจุดที่เหมาะสม เพราะเป็นพื้นที่ของจ.เชียงใหม่ มีหลายส่วนงานที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด เราหยุดโครงการไม่ได้ เพราะจะเกิดความเสียหาย แต่จะเดินต่อไปได้อย่างไรที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้อยที่สุด
matemnews.com 28 มีนาคม 2561