เรียกได้ว่าตอนนี้ช่องดิจิทัลแข่งขันกันอย่างดุเดือดทำให้เราได้เห็นผู้บริหารระดับสูงของหลายสถานีต่างโยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่งกันเป็นว่าเล่น เหตุเนื่องมาจากการแข่งขันที่สูงแต่ละช่องจึงต้องหาหนทางให้ตนเองนั้นอยู่รอด
จนล่าสุดก็เกิดปรากฏการณ์บิ๊กเจอบิ๊กขึ้นหลังจาก สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ อดีตรองกรรมการผู้จัดการช่อง 3 โบกมือลาช่อง 3 มาตั้งแต่ปีที่แล้วและมานั่งเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่พีพีทีวี ตั้งแต่ 1 กันยายนปีที่แล้ว
ล่าสุด คุณ พลากร สมสุวรรณ อดีตกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ก็ได้เข้ารับตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่พีพีทีวีเป็นที่เรียบร้อย งานนี้หลายคนต่างคาดหวังกับพีพีทีวีเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเจ้าของเงินทุนอย่าง นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของช่องพีพีทีวี เพราะ พลากร หรือคุณหน่อง นั้นเก่งในเรื่องคอนเทนต์ ส่วน สุรินทร์ เก่งในเรื่องการตลาด พีพีทีวีนั้นถึงแม้ว่าจะมีเงินทุนที่หนาแต่ก็ยังต้องการมืออาชีพเพราะขาดความชำนาญในเรื่องการทำทีวี เมื่อสองคนระดับบิ๊กของสองช่องใหญ่มาร่วมทีมจึงน่าจะทำให้พีพีทีวีไตร่อันดับขึ้นไปได้สูงกว่าที่เคย ซึ่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สุรินทร์ได้นำทีมแถลงข่าว จากที่เคยให้น้ำหนักของกีฬาในผังของช่องพีพีทีวี ได้ปรับเปลี่ยนให้มีเนื้อหาความบันเทิงเพิ่มเข้าไปมากยิ่งขึ้นให้มีความหลากหลายกว่าที่เคยจากที่มีกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุ 30 – 49 ปี โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนเมืองซึ่งเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม หลังจากเปลี่ยนเนื้อหาเรตติ้งก็ยังคงที่ไม่ขึ้นไม่ลง หลังๆอาจจะมีขึ้นบ้างเนื่องจากช่องNow ของกลุ่มเนชั่นอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของผู้ถือหุ้นจึงทำให้พีพีทีวีขยับอันดับสูงขึ้นแต่ตัวเลขเรตติ้งกลับน้อยลง
น่าจับตามองอย่างมากสำหรับทิศทางของพีพีทีวีในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อได้ผู้บริหารระดับสูงจากสองช่องใหญ่มาร่วมทีม จะสามารถสร้างพีพีทีวีให้ก้าวเข้าสู่ ท็อป 10 ได้หรือไม่และจะมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นมั้ยเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันจะช่วยกันสร้างหรือจะฆ่ากันเอง จับตาดูให้ดีกับพีพีทีวี
