นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดก็ว่าได้สำหรับการก้าวไปสู่ ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของ อสมท ที่ในยุคดิจิทัลนี้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้ อสมท ได้มากพออีกต่อไป จากที่เมื่อก่อนมีการแข่งขันกันเพียงแค่ 6 ช่องเท่านั้นสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเม็ดเงินการขายโฆษณาและค่าเช่าสัมปทาน แต่ตอนนี้การแข่งขันในยุคดิจิทัลที่มีถึง 22 ช่องเพิ่มเข้ามาไม่ใช่แค่ 6 ช่องเหมือนที่เคยแล้ว รายได้ที่เคยมีกลับหายไปในพริบตา ยิ่งนับวันยิ่งขาดทุน ผลประกอบการภาพรวมของ อสมท ในปี 2560 ที่ผ่านมาเรียกว่าขาดทุนถึง 2,736 ล้านบาทกันเลยทีเดียว
เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด อสมท ได้อนุมัติให้ อสมท วางยุทธศาสตร์องค์กรในระยะยาว โดยเน้นการขยายตัวธุรกิจสู่ Non-broadcasting ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการนำที่ดินของ อสมท ที่มีอยู่มาทำโครงการพัฒนาที่ดิน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจสื่อ Broadcasting ที่เป็นรายได้หลักมาอย่างยาวนาน และเริ่มทรงตัว จึงต้องการหารายได้อื่น ๆ เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
อสมท มีที่ดินแปลงใหญ่ทั้งหมดใน 3 เขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 แปลง คือ ที่ดินที่พระราม 9 จำนวน 70 ไร่, บางไผ่ ธนบุรี 60 ไร่ และ หนองแขม 40 ไร่
สำหรับที่ดินแถวพระราม 9 จำนวน 70 ไร่นั้นจะเปิดเป็น Market Sounding ให้กลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุน โดยที่ดินในย่านนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 แปลงส่วนแรก 50 ไร่บริเวณติดกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและบริเวณถนนร่วมเทียนนิมิตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
ส่วนที่ 2 จำนวน 20 ไร่เป็นที่ตั้งของบริษัท อสมท ติดกับธนาคารอาคารสงเคราะห์และหลังเซ็นทรัล พระราม 9 มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
ด้านพื้นที่ของ อสมท 60 ไร่ในบางไผ่เขต ธนบุรี อสมท มองว่าย่านนั้นเหมาะสำหรับการทำที่อยู่อาศัย เนื่องจากใกล้เส้นทางโทรคมนาคม โดยคาดการรายได้จากพื้นที่ในเขต ธนบุรี ที่ 400 – 500 ล้านบาท ก็จะเปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน
ส่วนพื้นที่อีก 40 ไร่ย่านหนองแขมที่ปัจจุบันเป็นโรงถ่ายละครของช่อง 3 ที่มีสัญญาสัมปทานอยู่ ซึ่งต้องรอการส่งมอบเมื่อสิ้นสุดสัมปทานและยุติระบบ อนาล็อกในปี 2564
นอกจากนี้ อสมท ยังมีพื้นที่ในจังหวัด ชุมพร อีก 20 ไร่ และเตรียมจะพัฒนาให้เป็นรายได้หลักให้กับ อสมท ต่อไปในอนาคต