เรียกได้ว่า เป็นข่าวที่ทำเอาชาวมุสลิมทั่วโลกเศร้าโศกที่สุดในเวลานี้เลยค่ะ เมื่อนักแม่นปืนชาวอิสราเอล ได้สังหารพยาบาลสาววัย 21 Razan al-Najjar ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในสนามรบ ระหว่างเขตแผ่นดินชาวยิว “อิสราเอล” และแผ่นดินมุสลิม “ปาเลสไตน์”
โดยเพจ สื่อเสรีสำนึกและสร้างสรรค์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นการยิงในขณะที่เธอลงทำงานภาคสนามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บชาวปาเลสไตน์ เธอถูกยิงเมื่อวานนี้ ที่คานยูนิส ทางใต้ของกาซ่า
ในภาพเราเห็นเธอในชุดทำงาน ยกมือเป็นสัญลักษณ์ว่ามามือเปล่า เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หาไช่จะเป็นอันตรายต่อผู้ใดไม่
แต่แล้ว ความไม่รู้จักปราณี ไม่มีสารบบแห่งความสงสาร ไม่รู้จักคุณค่าแห่งชีวิตมนุษย์ จากทางยิว เธอจึงกลายเป็นเหยือกระสุนจากผู้รุกรานแผ่นดินปาเลสไตน์ ในที่สุด
มารดาเธอนั่งเศร้าเสียใจกับความสูญเสียลูกสาว เธอกอดเสื้อปฎิบัตงานที่เปื้อนเลือด
นางสาวรอซาน อัซรอฟ อันนาญัร ชีวิตเธอได้อุทิศ เพื่อสาธารณะ เพื่อช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากน้ำมือทหารยิว
การจากไปของเธอทำให้เพื่อนๆ สุดรวดร้าวเเละเสียใจที่ต้องสูญเสียผู้ร่วมงานที่ดีที่สุดคนหนึ่งไป
ทั้งนี้ ทางด้านเฟสบุ๊ค Pipob Udomittipong ยังได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ และโยงไปยังอาวุธร้ายแรงที่สหรัฐ ได้สนับสนุนอิสราเอลมาใช้เพื่อการทำสงครามกับปาเลสไตน์นี้ว่า
ราซาน อัลนัจจาร์ถูกยิงด้วยกระสุนแค่ “นัดเดียว” เข้าหน้าอกทะลุกลางหลัง แต่เป็นกระสุนพิเศษ หรือ “butterfly bullet” ซึ่งระเบิดเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว กระสุนจะคว้านทำลายเนื้อเยื่อ เส้นเลือดและอวัยวะภายในจนแหลกกระจาย เด็กปาเลสไตน์หลายคนที่ถูกยิงขา จึงต้องตัดขาทิ้งแม้จะโดนกระสุนแค่นัดเดียว เพราะกระสุนแบบนี้ถือเป็นอาวุธต้องห้ามตามกฎหมายสงคราม (Hague Convention แก้ไขตามที่คนท้วงติงข้างล่างครับ) แต่ร่างกายของชาวปาเลสไตน์เป็น “สนามทดลอง” อาวุธใหม่ ๆ ของกองทัพอิสราเอล หรือ IDF เสมอ ความจริงการจงใจยิงพยาบาลถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาเช่นกัน เป็นอาชญากรรมสงคราม หรือ “war crime”