สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการประชุมที่อาคารรัฐสภา เมื่อตอนเช้าวันที่ 7 มิ.ย.2561 พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เปิดอภิปรายนำ ความบางตอนว่า
“เรื่องบประมาณแต่ละภาคไม่ต้องมาขอเพิ่ม เพราะรัฐบาลได้เกลี่ยงบฯให้เท่ากันทุกภาคอย่างทั่วถึง ดูความต้องการแต่ละภาค สำหรับค่าใช้จ่ายประจำปี สิ่งแรกที่ดูคือรายจ่ายประจำให้เป็นไปตามกฎหมาย นำไปสู่การปฏิรูปราชการที่ต้องมีการลดกำลังข้าราชการ ที่เวลานี้กำลังทำอยู่ แต่ลดทีเดียวไม่ได้ หลายอย่างต้องพิจารณาทั้งการแก้ไขการบรรจุ การเกษียณอายุ พิจารณาพนักงานลูกจ้าง จะทำอย่างไรกับเขาที่อยากบรรจุเป็นข้าราชการ เพราะเขาอยากได้สวัสดิการ มีการร้องเรียนจำนวนมาก เพราะยังไม่ได้บรรจุ อย่างไรต้องหาวธีการที่เหมาะสม กำลังภาครัฐลดลง แต่ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คนใหม่ได้มีอนาคตในการบรรจุ ข้าราชการคนหนึ่งกว่าจะเกษียณราชการต้องใช้งบฯ 20 กว่าล้านบาท ดังนั้นต้องให้เกิดเกิดความพอเพียงในการใช้งบฯประมาณ ที่มีปัญหาคือ ในส่วนของสาธารณสุขต้องแก้ให้เขา ต้องมีแผนงานบรรจุมาก ตรงนี้ต้องช่วยผมคิด หลายคนบอกว่า รัฐบาลใช้งบประมาณเป็นหลายๆล้าน ก็ลองไปเทียบดูว่าสิ่งที่เพิ่มมาเอาไปทำอะไร เอาไปใช้เพื่ออะไร ก็เพื่อเอาไปแก้ไขทำงานในอดีตที่ยังค้างอยู่ และทำปัจจุบันให้พัฒนาขึ้น ดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มากขึ้น และเป็นการลงทุนสู่อนาคต ในการทำแผนโครงการมีทั้งระยะสั้น กลางและระยะยาว โครงการระยะยาวต้องจ่ายเป็นงวดๆ จึงเป็นภาระผูกพันที่ต้องตามมา สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาใหม่คือ กิจกรรมใหม่ๆ ตรงนี้มันเป็นสัดส่วน ไม่ใช่เงินปีนี้ใช้ปีนี้ต้องใช้พ่วงไปตลอด ไม่ใช่แค่ปีนี้ รวมถึงหนี้สาธารณะที่จำกัดตามพ.ร.บ.หนี้สาธารณะ การทำงบประมาณไม่ใช่เรื่องง่าย ขอฝากไปถึงข้าราชการต้องทำให้ได้และถูกต้อง มีประสิทธิภาพไม่ทุจริต ไม่ต้องกลัว หากทำถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ประเทศชาติได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า หลายคนเมื่อเห็นงบฯสูงก็บอกว่า จะมีการทุจริตอีก ผมถามว่า ถ้าคิดอย่างนี้คงทำอะไรไม่ได้ แต่ต้องมองว่า งบประมาณวันนี้ทำครบหรือเปล่า เหมาะสมหรือไม่ อันไหนที่ควรจะทำเพิ่ม อันไหนที่ควรจะลดก็ว่ากันไป ถ้าบอกว่า มีมากแล้วจะเกิดการทุจริต มันทำไม่ได้ทั้งหมดหรอก เพราะการทุจริตคืออีกขั้นตอนหนึ่ง ที่จะใช้กลไกในการตรวจสอบดำเนินการทุกวัน มีการชี้แจงมีการสอบถาม เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ มีเรื่องทั้ง ป.ป.ช. และ สตง.ทักท้วงมาก็ตอบไป เมื่อตรวจสอบไม่พบรัฐบาลก็ทำต่อได้ อย่าให้ใครเอาไปใช้ประโยชน์ในการบิดเบือนที่มองว่า มีการทุจริตกันเหลือเกิน แน่นอนการทุจริตไม่ได้อยู่ที่ระบบกฎหมาย แต่อยู่ที่คน การทำงานที่จะทำมีประสิทธิภาพอยู่ที่คนทั้งสิ้น ให้ความสำคัญ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีเหตุมีผล ไม่ใช้ความรู้สึก เท่านั้นทุกอย่างก็จะทำได้หมด ไม่อย่างนั้นเราต้องบังคับใช้กฎหมายไปเรื่อยๆ กฎหมาย ก็จะแรงขึ้น มันคืออันตรายการใช้กฎหมาย การใช้กฎหมายต้องไม่สร้างภาระ คือ การทำอะไรที่ไม่ควรจะทำ ฉะนั้นกฎหมายที่ออกมาใหม่คือ ต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และลดความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่และประชาชน ไม่อย่างนั้นก็ชกกันตลอดเวลาเพราะมันสองทาง เจ้าหน้าที่ดีก็มี ประชาชนที่ดีก็มี ที่เคารพกฎหมาย เจ้าหน้าที่ขี้โกงก็มี เพราะเป็นคน อย่าโทษระเบียบแต่เพียงอย่างเดียว โครงการต่างๆที่เสนอมายังรัฐบาล ผมอ่านและดูทั้งหมด ไม่ใช่อนุมัติส่งเดช คนเป็นนายกฯต้องมีความซื่อสัตย์มีคุณธรรม ดูให้ทั่วถึงทุกกระทรวง ตอนนี้ได้กำชับไปแล้วจะเสนออะไรขึ้นมา ต้องสอดคล้องกับความต้องการของประเทศด้วย เพราะสิ่งที่เราทำในวันนี้เพื่ออนาคตของเด็ก ไม่ใช่เสนออะไรมาก็ได้ ถ้าเสนอมาแล้วไม่โยงการพัฒนาประเทศ ครม. ก็ไม่อนุมัติ ผมก็ไม่ให้ โดยเฉพาะเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เส้นทางรถไฟต้องมีความต่อเนื่อง เชื่อมโยงให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ทุกอย่างต้องมีการแข่งขันประมูลอย่างถูกต้อง ที่สำคัญจะต้องผ่านคณะกรรมการที่ผมตั้งขึ้นมาตามความเหมาะสม ไม่ใช่เสนออะไรมาก็ได้ ถ้าไม่เชื่อมโยง ก็ไม่อนุมัติ ไม่เช่นนั้นก็ต้องมานั่งแก้ปัญหา ทุกวันนี้ต้องใช้มาตรา 44 มาช่วยแก้ อย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน การดำเนินการไม่ได้หวังเอื้อประโยชน์ให้ใคร ทุกอย่างต้องเข้ามาตามกติกาและกฎหมาย ที่ผ่านมา ภาคเหนือเป็นอย่าง ภาคใต้เป็นอย่าง ภาคอีสานเป็นอย่างนี้ ไม่สามารถแสดงตัวเลขให้ชัดเจนได้อย่างที่รัฐบาลนี้ทำ วันนี้แสดงให้เห็นว่า ทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน มากน้อยตามลำดับ ต้องเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ เป็น ครม. ของคนทั้งประเทศ ให้คนได้รับประโยชน์ ไม่ใช่ให้เฉพาะคนกลุ่มหรือพวกกันทำแบบนั้นไม่ได้ ผมหวังว่า วันหน้ารัฐบาลที่ท่านคาดหวังกันให้เขาทำให้ได้แบบนี้ แต่ไม่ใช่หมายความว่าผมทำดีเลิศ ประเสริฐศรีหรือดีที่สุด มันไม่ใช่ ผมเพียงริเริ่มไว้ให้พวกท่าน ฉะนั้นเราควรเอาเวลานี้ ก่อนไปสู่การเลือกตั้งมาคุยกันในเรื่องนี้จะได้หรือไม่ รัฐบาลไหน พรรคการเมืองไหน ที่จะเสนอแนวทางการทำงานมากกว่าที่จะมาบิดเบือนต่อว่า มันก็จะกลับไปที่เดิมหมด สร้างความเกลียดชังจนกระทั่งหาสาระไม่ได้ ตรงนี้ต้องฝากกันไว้ด้วย ที่ผ่านมาประเทศไทยทะเลาะกันไม่เลิก ใครคิดว่าใช่บ้าง ทุกคนต้องการเหมือนกัน ต้องการดี อยากได้ เห็นประเทศอื่นร่ำรวย แสดงว่า คนไทยที่บริหารมันห่วย ทั้งๆที่มีศักยภาพเยอะแยะ ไม่ว่า จะเป็นพื้นที่ คน สถานที่ท่องเที่ยว การยิ้มแย้มแจ่มใสของคนประเทศอื่นไม่มี เป็นเจ้าภาพที่ดี แต่เรากำลังทำลายสิ่งเหล่านี้ เพราะการพูดกันไปมาโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักการ โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งจากปากต่อปาก ในสื่อ ในโซเชียลมีเดีย แต่สิ่งที่ดีๆก็มีเยอะ เราต้องเลือกเสพ ไม่ใช่อ่านแล้วเอาตามทั้งหมด บางเพจด่า บางเพจเชียร์ ความรู้ไม่มี หลักคิดไม่ได้ เป็นสถานการณ์ที่สร้างความขัดแย้ง นี้คือปัญหาประเทศที่เกิดมาหลายสิบปี มันต้องแก้กันในวันนี้ แก้ให้ได้ก่อนการเลือกตั้ง ต้องให้เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ขอให้ช่วยเรื่องการปฏิรูป ประเทศไทยมันยากตรงความขัดแย้ง ในต่างประเทศกลับไปชมเขานักหนาว่าเขาดี วันนี้บางประเทศยังเฆี่ยนคนอยู่เลยไม่ขอเอ่ยนามว่าประเทศอะไร แต่คนเขาก็กลัว ถูกเฆี่ยนแต่เรื่องกฎหมาย ประเทศไทยไม่กลัว เพราะประชาธิปไตยมันถูกหรือเปล่าแบบนี้ มันต้องคนรุ่นไร้ขีดจำกัดทำลายทุกอย่าง รื้อทุกอย่างได้ นี่หรือคนรุ่นใหม่ ทำสิ่งดีๆใหม่ๆแย่ไปหมด ฝากไว้ด้วยเรื่องนี้ การใช้จ่ายเงินทุกรัฐบาลต้องแสดงความชัดเจนว่า ต้องหาเงินมาจากไหน เสนอแผนงานกันมาต้องดูด้วยว่า รัฐบาลมีเงินเท่าไหร่ ดังนั้นการปฏิรูปถึงได้มองระยะยาว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศ แต่ถ้ายุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปทำไม่ได้ ก็จบแบบนี้ ฝากไว้ด้วยจะช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร ไม่อย่างนั้นรัฐบาลก็โดนทุกวัน รัฐบาลแก้ปัญหาทุจริตทุกวัน เรื่องทุจริตเราต้องช่วยกันดู แต่ไม่ใช่จับผิดจนทำอะไรไม่ได้ ก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น กลายเป็นการเพิ่มภาระในปีต่อไป เพราะถ้าวันนี้ทำไม่ได้วันหน้าก็ทำไม่ได้อยู่ดี หลายโครงการทำแล้วถูกต่อต้าน”
พูดมาถึงช่วงนี้ พลอประยุทธ์ ชี้มือไปทางที่นั่งนักศึกษา ที่เข้ามานั่งฟังการประชุมในส่วนที่นั่งของประชาชนบนชั่น 2 โดยถามว่า อายุถึง 18 ปี หรือยัง บรรนักศึกษาพากันพยักหน้า พล.อ.ประยุทธ์ พูดต่อ
“18 แล้วใช่ไหม มีสิทธิเลือกตั้งแล้วไปเลือกให้ดี เพราะนั่นคือ อนาคตของท่าน ไม่ใช่อนาคตของผม เพราะฉะนั้นการพัฒนาประเทศจะเอามาจากไหน ก็ต้องมาจากรัฐ รัฐวิสาหกิจ เงินกู้ จะให้ไปเก็บเอาตามถนน หรือไปบีบเอาที่ใคร มันมีแค่นี้ วันนี้ประชาชนเดือดร้อน เพราะภาษี แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะทุกคนต้องการหมด เรื่องรัฐสวัสดิการอันนั้นก็ฟรี อันนี้ก็ฟรี ทั่วโลกชื่นชม ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ได้ประโยชน์ได้ 100 % หรือยัง ก็ยังไม่ได้ ถ้าวันนี้ประชาชนเรียกร้องให้มากที่สุด ผมถามว่า จะเอาเงินจากไหน ประเทศจะล้มละลายหรือเปล่า หลายคนบอกว่า ไม่รวยเสียที เอื้อประโยชน์แต่คนรวย ก็คนที่รวยมากเขามีประกอบการมาก เขาล้มละลายเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เขา และเขาก็เสี่ยงของเขาเอง แต่ถ้าเขาทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกลงโทษ เพราะต้นทุนไม่เท่ากัน อย่าไปบอกว่ารวยๆแล้วเป็นอย่างไง บอกว่า ต้องรวยๆ ชิโป้ง ชิปัง เป็นไงก็ไปอยู่ต่างประเทศไง ดังนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ วันหน้าก็อาจจะรวย วันนี้ประชาชนยังไม่ได้อะไร เพราะเขาเป็นหนี้โรงสี ขอให้โรงสี ลดดอกเบี้ยลงหน่อย เพราะการปลูกข้าวต้องเอาเงินไปลงทุน ขายได้ราคาเท่าไหร่ก็ต้องขาย ประกาศราคาเท่าไหร่ก็ได้เท่าเดิม ผมกำลังให้รองนายกฯไปขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร หนี้นอกระบบมาให้หมด ต้องมีการเจรจา หากคิดดอกเบี้ยเกินตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ต้องไปเร่งเจรจาลดหนี้ให้เกษตรกร เรื่องหนี้นอกระบบหากว่ามี พลเรือนหรือทหาร ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องติดคุกให้หมด จะปล่อยไว้ทำไม รัฐบาลจะเคลียร์ตรงนี้ให้หมด เพื่อให้สะอาด เจ้าหน้าที่ที่ไม่ดีก็เอาออกไป ขอโทษที่เสียงดัง แต่ผมก็เป็นมนุษย์ แต่ตำแหน่งนายกฯก็คือตำแหน่ง ฉะนั้นจะมาหมิ่นตำแหน่งนายกฯไม่ได้ ถ้าจะด่าก็ด่าผมได้ แต่ถ้าผมเป็นนายกฯอยู่กรุณาระวังหน่อยแล้วกัน เพราะนายกฯเป็นตำแหน่งที่มีการเกียรติ ผมก็อยากรักษาตำแหน่งนี้ให้มีเกียรติ ไม่ใช่ไม่มีเกียรติ ขอบคุณที่เข้าใจผมทุกคน ขอบคุณ ครม. ของผมด้วยที่ทำงานอย่างสาหัส มันไม่ง่ายในการทำระหว่างที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้อยู่ ข้าราชการข้างล่างก็ต้องปรับตัว เขาก็ปรับตัวกันอย่างเต็มที่ เพราะเขาก็อยากจะทำ แต่ถ้าเราไม่ให้ความไว้วางใจกัน คนดีก็จะหมดไป คนไม่มีดีก็จะเตรียมรอ วันข้างหน้าก็ออกมาใหม่”
เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงาน
คำแถลงประกอบงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
คลิกอ่านรายละเอียด
matemnews.com
7 มิถุนายน 2561