เป็นระหว่างวันที่ทั้ง “น็อต-วิศรุต” และ “ชมพู่-อารยา” เดินทางมาถึงประเทศอิตาลี ก่อนที่จะเข้าร่วมงาน “เวนิส อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล” ครั้งที่ 75 (75th Venice International Film Festival) ทั้งคู่ใช้เวลาชิลเต็มที่ ควงกันเที่ยว ถ่ายรูป เก็บความประทับใจระหว่างอยู่ที่นี่ โดยมีภาพความหวานออกมาเป็นระยะ ระหว่างล่องเรือกอนโดล่า ที่ใครต่างมาถึงเมืองเวนิสทั้งที กิมมิกของที่นี่คือ การนั่งเรือชมวิวไปตามลำคลองสองฝากฝั่ง ชมวิถีเมืองอันเก่าแก่ ที่หลายคนบอกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำนั่นเอง ทั้งคู่ท่องเที่ยวเดินชมเมืองเติมความสุขให้กันและกันก่อนที่จะกลับเมืองไทย… ทำเอาเวนิสหวานไปทั้งเมือง!!!
งานนี้หนุ่มน็อตมาในชุดหล่อเนี๊ยบตามสไตล์ ใส่เสื้อเชิ้ตลายขวางทับด้วยเสื้อสูทสีเบจ ส่วนนางเอกคนดังก็หยิบเดรสสีหวาน พริ้นท์ลายดอกไม้ หวานที่สุดในสายตาหนุ่มน็อตตอนนั้นแล้ว ชมพู่จับคู่มากับนาฬิกา “เจเกอร์-เลอคูลทร์ รุ่น รองเด-วูส์ ไนท์ แอนด์ เดย์”(Jaeger-LeCoultre Rendez-Vous Night & Day) ตัวเรือนพิงก์โกลด์ สายหนังสีน้ำตาล ที่ออกแบบมาสำหรับเฉพาะหญิงสาว ให้เธอได้เติมเต็มลุคหวานๆ ของเธอได้อย่างดีเลยทีเดียว….
นอกจากนั้นแล้ว น็อต–วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์” ที่มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลินาฬิกาแบรนด์หรู “เจเกอร์–เลอคูลทร์” (Jaeger-LeCoultre) ที่เป็นผู้สนับสนุนการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เวนิสอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล (Venice International Film Festival) อย่างเป็นทางการมาเป็นเวลา 14 ปี โดยหนุ่มน็อตได้เดินทางไปที่เมืองเลอซ็องทิเย่ร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้นกำเนิดแบรนด์นาฬิกาหรู เพื่อชมความพิเศษ ในการประดิษฐ์ แถมงานนี้เขายังได้ลงมือทดลอประกอบกลไก นาฬิกา “เจเกอร์–เลอคูลทร์” (Jaeger-LeCoultre) อีกด้วย
โดยหนุ่มน็อตยังได้เผยความรู้สึกให้เราฟังหลังเขาเยี่ยมชมโรงงานสุดหรูที่มีความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนานแห่งนี้ว่า เขามีความประทับใจในระบบและการจัดการของโรงงาน เพราะเขาคือหนึ่งนักบริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง รวมไปถึงยังได้ทราบประวัติความเป็นมา ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งในอดีต จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ เทคโนโลยี หรือวัฒนธรรมขององค์กร ทำให้ประทับใจที่ทาง “เจเกอร์–เลอคูลทร์” (Jaeger-LeCoultre) ได้รักษาวัฒนธรรมมานานถึง 185 ปี ให้สืบเนื่องและดำรงต่อไป ทั้งนี้ยังวางรากฐานไว้ได้มั่นคงมาก และมั่นใจว่าจะเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงและเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งยังเป็นบริษัทนาฬิกาที่ผลิตทุกชิ้นส่วนใน Calibre ตั้งแต่ศูนย์จนสามารถเกิด Movement ได้ ซึ่งทำให้เกิดความประทับใจมาก
ซึ่งในวันนั้น เขาเลือกสวมใส่ “เจเกอร์–เลอคูลทร์” (Jaeger-LeCoultre) รุ่น โพลารีส โครโนกราฟ เวิลด์ ไทม์ (Polaris Chronograph World Time) นอกจากดีไซน์ที่สวยงามของตัวเรือนนี้แล้ว ยังมีกลไกที่ซับซ้อนเป็นสิ่งที่นักสะสมถวิลหาอย่างมากเลยทีเดียว