Home บันเทิง “โดม เดอะสตาร์” มองมุมบวกคิดว่าเป็นน้ำมนต์ หลังเจอลูกค้าฉี่รดหน้าร้าน

“โดม เดอะสตาร์” มองมุมบวกคิดว่าเป็นน้ำมนต์ หลังเจอลูกค้าฉี่รดหน้าร้าน

1077
0
SHARE

ถือว่าลูกค้าเป็นพระเจ้า นักร้องนักแสดงหนุ่ม โดม เดอะสตาร์ หรือ โดม – จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม เจอลูกค้าอ้างเป็นนักข่าว พร้อมไม่พอใจฉี่ใส่หน้าร้านปิ้งย่างของตนเอง โดยหาว่าปรโมชั่นของทางร้านไม่ตรงกับที่บอกเอาไว้ในระหว่างที่มาใช้บริการ

งานนี้นักร้องหนุ่มเผยถึงความรู้สึกว่า “ถ้าเป็นตอนนั้นก็เป็นเรื่องที่ซีเรียสอยู่ แต่พอมันผ่านมาแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องราวที่มันตลกดีเหมือนกัน เพราะมันเกิดจากเหตุการณ์ความเข้าใจผิดของคุณลูกค้านะครับ เราเองก็เขียนอธิบายไว้ทุกอย่างแล้ว แล้วก็มีน้องๆ ที่เป็นพนักงานได้อธิบายก่อนรับออเดอร์แล้วด้วย อาจจะด้วยความเข้าใจผิดของเขา เขาก็เลยไม่เข้าใจ แล้วพอไปเก็บเงินตอนหลังเขาก็โวยวาย ซึ่งโวยวายเนี่ยไม่เท่าไหร่ แต่ถึงขั้นว่าปัสสาวะที่หน้าร้านเลย อาจจะด้วยความมึนเมาด้วย ด้วยความไม่เข้าใจด้วยผสมกัน เขาปัสสาวะตรงหน้าร้านครับ แถวๆ ที่จอดรถ อาจจะไม่ถึงขั้นฉี่ในเตา(หัวเราะ) เราไม่ให้ทำแบบนั้นแน่ๆ”

      

รับโปรโมชั่นอาจไม่เคลียร์ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

“คือมันก็อาจจะมีส่วนไม่เคลียร์ ถ้าคนอ่านไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้าเกิดมองผ่านๆ เราเขียนไว้บนกระดานดำ ที่เป็นตัวโฆษณา เพราะกฎหมายของโฆษณามันก็ไม่ให้โฆษณาในเฟซบุ๊กแล้ว เราก็ดึงออกทั้งหมด มีทางเดียวคือโฆษณาในร้าน ก็นั่นแหละอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้”

      

จับฉี่ใครดมไม่ได้ เผยเพื่อนอีกฝ่ายอ้างเป็นนักข่าว

       “ตอนนั้นคือผมไม่ได้อยู่ เพื่อนอยู่ คือเหมือนเขาไปทานกัน 4 คน หนึ่งคนเขาบอกว่าเป็นนักข่าวของช่องๆ หนึ่ง อารมณ์ประมาณนี้ คือผมไปสืบมา จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่นักข่าวหรอก อาจจะเป็นคนที่มีงานอยู่ในบริษัทนั้น แต่ว่าคนที่เมาเขาอ้างว่าคุณก็อยู่ในบริษัทนี้ไม่ใช่เหรอ เป็นนักข่าวช่องนี้ ฝากไปลงโซเชียลเลย ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเป็นร้านผม เพื่อนผมได้ยินเลยบอกเป็นนักข่าวเหรอครับ พอดีโดมเป็นเจ้าของร้านนี้ เดี๋ยวให้โดมฝากไปขอโทษนะครับ เขาก็ตกใจว่าเป็นร้านโดมเหรอ ตอนหลังผมก็พยายามไปสืบหาแต่ก็หาไม่เจอว่าเป็นใคร จับไม่ได้ เพราะเรามีกล้องวงจรปิดก็จริงแต่มันมีรถยนต์จอดยังอยู่ จังหวะที่เขาทำ”

             “เขาก็น่าจะโวยหนักอยู่ แต่มันเป็นช่วงที่ร้านมันปิดแล้วประมาณ 3-4 ทุ่มแล้ว ลูกค้าออกหมดแล้ว เลยไม่เกิดความวุ่นวายเท่าไหร่”

  “เรื่องโปรโมชั่นที่เขาเข้าใจผิด คือถ้าเกิดทางบุฟเฟต์เครื่องดื่ม พร้อมกับบุฟเฟต์อาหาร มันจะเป็นอีกราคาหนึ่ง ถูกมั้ยครับ ตามหลักความเป็นจริง แต่ถ้าเกิดเป็นบุฟเฟต์เครื่องดื่มเพียวๆ แล้วทานกับพวกกับแกล้ม มันก็ต้องเป็นราคาแพงกว่า แต่เขาเข้าใจสลับราคากัน”

  “เราก็อธิบายแล้วก็ขอโทษ ให้ส่วดลดด้วยก็ยังฉี่ใส่ ถามว่ากลัวมีผลกระทบกับชื่อเสียงของร้านมั้ย ก็มีคนเกิดคำถามขึ้นมาว่าจริงๆ เราต้องการหลอกลวง หรือเขียนให้เขาเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่เรายืนยันไว้เลย ว่าเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราโฆษณา รวมไปถึงบอก และย้ำมาตั้งนานแล้วกับเด็กคนที่ไปรับออเดอร์ว่าบอกลูกค้าหรือเปล่าว่าเป็นราคาแบบนี้ เขาก็บอกว่าเขาอธิบายให้ลูกค้าฟังแล้ว ซึ่งมันอาจจะเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารแหละ”

      

 

 

 

เผยเปิดมา 5 เดือนเจอปัญหาหลายรูปแบบ แถมบางคนโวยแหลกภาพในเมนูกับของจริงต่างกัน ลั่นถ้าให้เยอะคงต้องเปิดโรงทาน

    “ตอนนี้ยิ่งไม่ได้ เพราะเขาไม่ให้เขียนโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ติดป้ายก็ไม่ได้ เพราะเราต้องบอกปากเปล่าอย่างเดียว และอธิบายด้วยภาษาอย่างเดียว ตลอดเวลาที่เปิดมา 4-5 เดือน ก็เจออยู่เรื่อยๆ นะ เจอหลายแบบมาก มีแบบบางคนฉะกับผมเลยก็มี ด่าผมเลย ด่าว่าเหมือนภาพในเมนู กับของจริงไม่เหมือนกัน ในเรื่องของจำนวน เพราะในเมนูเราจำเป็นต้องโชว์ลายเนื้อถูกมั้ย มันต้องเป็นจานใหญ่ๆ และเขียนบอกในเมนูเลยว่าเราจะเสิร์ฟถาดละ 80 กรัม และอธิบายก่อนที่เขาจะรับออเดอร์ ซึ่งพอของมาจริงๆ เขาก็โวยวายว่าทำไมของไม่ได้เยอะเท่าในรูป เราก็บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ ผมเปิดโรงทานดีกว่าครับ ผมเปิดโรงเจให้กินฟรีดีกว่า เขาก็โวยวาย ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ถ้าผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในร้าน คงไม่เป็นไร แต่เราเป็นคนดูแล เราก็ต้องไปขอโทษเขา เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเรา หรือความผิดของใคร เหมือนคำพูดที่ว่าลูกค้าคือพระเจ้า”

 

เชื่อไม่ถูกดิสเครดิต จะปรับปรุงทุกสิ่งที่เกิดจากความผิดพลาด

      “จริงๆ เราไม่ได้มองว่าเป็นการดิสเครดิตหรอก เพราะว่ามันไม่ได้มีใครที่อยากออกมาโวยวายโดยไม่มีเหตุผลนะ แต่ละคนมีเหตุผลของเขา เราแค่พยายามเข้าใจว่าเกิดความผิดพลาดตรงไหน และเราเอามาปรับปรุง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ทำให้เราต้องใจกว้างและใจเย็นขึ้น โดยปกติ ผมเป็นคนใจร้อนมาก พอเจอเหตุการณ์แบบนี่ ทำให้เราค่อนข้างใจเย็นมากขึ้น และค่อยๆ แก้ปัญหาว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหนกันแน่ ทุกวันนี้เราก็ยังเหนื่อยนะ ถึงแม้จะมีรายรับเพิ่มขึ้นมาแต่เรายังคงเหนื่อย แต่ถ้าแลกกันกับความสุขของลูกค้า อีกหลายโต๊ะที่เขามีความสุข และมาชื่นชม มายินดีกับเรา ทำให้เราโอเคกับมันได้ ผมตอบรับตอนนี้ดีเลย และจะดีขึ้นไปอีก ถ้าทุกคนไปทาน”

 

ยังขำออก บอกคิดว่าอีกฝ่ายโปรยน้ำมนต์

    “เรื่องที่เขามาฉี่หน้าร้าน เราก็คิดซะว่าเขาโปรยน้ำมนต์ให้เราแล้วกัน เพราะว่าหลังจาก มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็มีลูกค้าให้ความสนใจ มามองว่าจุดฉี่อยู่ตรงไหน (หัวเราะ) แต่ผมก็มองว่า อย่าให้ซ้ำรอยเดิม”