พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุทางท้องถนนช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2562 ที่อาคารว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเช้าวันที่ 19 ธ.ค.2561 โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมประชุม และทำการถ่ายทอดสดวิดิโอคอนเฟอร์เร้นทางไกลร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 77 จังหวัด แม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 3 แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1-9 และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า
“เนื่องจากช่วงเทศกาลปีนี้ ตั้งแต่วันคริสต์มาสไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้องและท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่างๆเป็นจำนวนมาก รัฐบาลมีนโยบายต้องการให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย นอกจากนี้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยตามพื้นที่ต่างๆอีก จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยในการเดินทางและตามสถานที่ท่องเที่ยวให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับความปลอดภัยอย่างดี โดยเฉพาะการวางมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเรื่องการจราจร คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแม้จะอยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง เรายังคงยึดมาตรการเดิมในการดูแลรักษาความปลอดภัย เช่น มาตรการเมาแล้วขับจับยึดรถ จะกำชับให้หน่วยต่างๆลงไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุการสูญเสีย”
หลังเลิกประชุมแล้ว พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าว
“ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยข่าวเพิ่มความเข้มข้นงานข่าวกับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นภัยความมั่นคง และขอให้ทุกหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทำหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงด้วยความตื่นตัว เฝ้าระวังการก่อวินาศกรรม และร่วมป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานีขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำและอากาศ สถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งพื้นที่จัดงานและสถานที่สำคัญๆ ร่วมกันกวาดล้างอาชญกรรม และจัดตั้งจุดตรวจ คุมเข้ม สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อาวุธสงคราม การลักลอบคนข้ามแดน และสินค้าผิดกฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วประเทศ ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ การอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนพล.อ.ประวิตรได้ย้ำขอให้หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด อำเภอ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน การป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และการช่วยเหลือประชาชนหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยให้นำข้อมูลทางสถิติในพื้นที่ มากำหนดมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังอุบัติเหตุให้ครอบคลุม โดยเฉพาะการคุมเข้ม 7 มาตรการหลักในทุกพื้นที่ กับปัจจัยเสี่ยงทั้ง คน ถนนและยานพาหนะ การดูแลความปลอดภัยทางน้ำและนักท่องเที่ยว รวมทั้งการบริหารจัดการและช่วยเหลือประชาชนหลังเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งกำชับกระทรวงคมนาคม ต้องกวดขันและคุมเข้มมาตรการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการรถสาธารณะ การตรวจสอบ ปรับปรุงและซ่อมแซมผิวจราจร เครื่องหมายจราจรและการส่องสว่าง รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงแผนการจราจรในจุดเสี่ยงทั้งเส้นทางสายหลักและสายรอง ทั้งนี้ให้ประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุก หยุดหรือหลีกเลี่ยงประกอบกิจการในห้วงเวลาดังกล่าว ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในพื้นที่ระดับจังหวัด อำเภอและท้องถิ่น โดยเฉพาะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในทุกพื้นที่ ขอให้ร่วมกวดขันวินัยจราจร ทั้งเส้นทางสายหลัก สายรอง และชนบท โดยต้องคุมเข้มมาตรการทางกฎหมายกับ การขับรถเร็วและประมาท ผู้ขับขี่ที่เมาสุรา การไม่สวมหมวกนิรภัย และสถานบันเทิงอย่างจริงจัง รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ และขอความร่วมมือทุกครอบครัว ร่วมกันทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และเตือนสติกัน เพื่อลดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ สูญเสียที่อาจเกิดขึ้น”
matemnews.com
19 ธันวาคม 2561