จากกรณี “ครูอ้อย” ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อยเข็มทิศชีวิต ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ในกรณีถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์และให้หยุดการสอน มิฉะนั้นจะสร้างความเท็จ เพื่อใส่ร้ายก่อให้เกิดความเสียหายนั้น ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกบุคคล 3 ราย ให้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งหนึ่งในนั้น มีชื่อ “ครูเงาะ” รสสุคนธ์ กองเกตุ ครูสอนการแสดงชื่อดัง รวมอยู่ด้วย โดยเรียกมาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ทางทนายความของครูอ้อยได้ขอเลื่อนไปก่อน
ล่าสุด ครูเงาะ ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว หลังถ่ายรายการ คุยเช้าShow โดยระบุว่า “ครูเงาะได้รับหมายเรียกให้มาเป็นพยานจากบริษัทเข็มทิศชีวิต ก่อนจะโดนหมายเรียกผู้ต้องหาเป็นครั้งที่ 2 เลย ให้พบในวันที่ 15 ส.ค. ครูได้หมายมาวันที่ 11 ส.ค. เราอยากไปให้เร็วที่สุด แต่วันที่ 15 ติดงานยาวจนถึงวันที่ 20 จะตั้งใจไปในวันที่ 21 แต่ดันมีข่าวว่าเราเลื่อนถึง 2 ครั้ง และขอฝากนักข่าวไปถามอีกฝ่ายว่า ทำไมต้องไปแจ้งความถึงที่ สภ.บ่อทอง”
ครูเงาะเผยต่อว่า เรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้ว พอเริ่มเข้าคลาส มีเนื้อหาบางส่วนที่รู้สึกว่ามีแนวคิดไม่ตรงกัน จึงติดต่อไปเพื่อให้นำคลิปหรือภาพที่มีตนออกจากการโปรโมทเพื่อไม่ให้มีผู้เข้าใจผิด ติดต่ออีกฝ่ายแต่ยังไม่ดำเนินการ จนถึงเดือน พ.ค. ก็ยังคงปรากฎคลิปที่มีตนอยู่ และในเว็บพันทิปมีการแสดงความเห็นถึงตนว่าเป็นคนเรียกเข้าคลาสครูอ้อย ตนจึงโพสต์ข้อความชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับเข็มทิศชีวิตแล้ว ส่วนที่ อุ๋ย บุดดาเบลส และ เอ๋-มณีรัตน์ โพสต์ข้อความชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับคลาสเข็มทิศชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันไม่เกี่ยวข้องกับตน ไม่ได้เป็นการร่วมมือกันเพื่อดิสเครดิตแต่อย่างใด
จุดที่ทำให้ตนรู้สึกว่าความเห็นไม่ตรงกันนั้น บอกว่า ต้องกลับมาเรียนสม่ำเสมอ ถ้าไม่มาจิตจะตกนะ ซึ่งตนรู้สึกว่าการกลับมาฮีลลิ่ง กลับไปเรียนอีกเรื่อยๆ หลักการสอนในช่วงหลังๆ ตนไม่ค่อยเห็นด้วย ส่วนเรื่องที่โดนข้อหาว่าขู่กรรโชกทรัพย์เงินถึง 11 ล้าน ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อยากถามว่าทำไมต้อง 11 ล้าน ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน หากอีกฝ่ายยืนยันว่ามีหลักฐานการข่มขู่จริง ก็อยากให้นำมาแสดง ซึ่งวันที่ 21 ส.ค. ที่ตนจะเข้าไปพบตำรวจก็อยากเห็นหลักฐานเหมือนกัน ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเกี่ยวข้องกับที่ตนเปิดคลาสการสอนที่มีเนื้อหาบางส่วนคล้ายกันหรือไม่ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่สอนกันทั่วโลก
จากนี้ตนจะเข้าไปพบตำรวจในวันที่ 21 ส.ค. และยังไม่ได้คุย นายวินัย ที่มีชื่ออยู่ในหมายจับด้วย ทั้งนี้อาจจะฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท และเตรียมเข้าพบตำรวจ ปอท. เพื่อสืบต้นตอหลักฐานที่คนอ้างว่ามีไลน์ไปข่มขู่ ส่วนตัวตนอยากจบเรื่องนี้และไม่อยากให้บานปลาย
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
