“พิชัย นริพทะพันธุ์” ชี้ นายกรัฐมนตรี ต้องมีบรรทัดฐานสูงกว่ารัฐมนตรี จึงต้องลาออก สงสัย นโยบายของพลังประชารัฐ ทำไม 5 ปีถึงไม่ทำ แจงไม่เกี่ยวข้องรัฐบาลเพราะอายผลงานแย่
พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช) แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อตอนเช้าวันที่ 2 ก.พ.2562 ว่า ตามที่ได้มีการเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกหากรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ จากพรรคการเมือง แต่พลเอกประยุทธ์ กลับปฏิเสธ อีกทั้งยังใช้วาจาไม่สุภาพ “มึงมาไล่ดูสิ…. แต่ไม่ออก” จนเป็นแฮ็ทแท็คติดอันดับหนึ่งทั่วโซเชียลมีเดียนั้น เป็นกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเยาวชน
หากจำกันได้ 4 รมต. ก็ถูกเรียกร้องให้ออกอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเกรี้ยวกราด และสุดท้ายก็ต้องลาออกเพราะทนอับอาย และ ทนกระแสสังคมกดดันไม่ได้ เพราะ รมต. ทั้ง 4 ท่านมีการศึกษาที่ดี ทราบว่า การอยู่ในตำแหน่งใน ครม. ที่ไม่ใช่ ครม. รักษาการปกติ เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น
ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ศึกษาเป็นตัวอย่าง เพราะ “นายกรัฐมนตรีจะต้องมีบรรทัดฐานที่สูงกว่ารัฐมนตรี” และเป็นตัวอย่างให้กับคนทั้งประเทศ ทั้งการปฏิบัติ และ ทั้งคำพูด หากมีบรรทัดฐานต่ำ จะเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกหรือ จึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ พิจารณาการกระทำและคำพูดของตน ต้องคิดให้หนักว่าหากเรื่องแค่นี้ยังทนความกดดันไม่ได้ แล้วพลเอกประยุทธ์จะเป็น นายกฯ อยู่ในการเมืองระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ยิ่งจะไม่มี ม. 44 แล้ว นอกจากนี้ จากการที่ได้รับเชิญแสดงวิสัยทัศน์ทางนโยบายร่วมกับตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบางนโยบายฟังดูดี จึงสงสัยว่าทำไม 5 ปี จึงไม่มีการปฏิบัติเลย ทำให้สงสัยว่าจะเชื่อได้ไหมว่า หากชนะการเลือกตั้งแล้วจะมีการดำเนินการจริง และหากประชาชนทวงถามจะถูกตะคอกอีกหรือไม่ การที่ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐพยายามชี้แจงแก้ตัวว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้เลย มีแค่ 4 รมต. เท่านั้น ทำให้สงสัยว่า พรรคพลังประชารัฐรู้สึกละอายในผลงานของรัฐบาลใน 5 ปีที่ผ่านมาใช่หรือไม่ และ ต้องถามประชาชนว่าเชื่อหรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ที่ประชาชนจำนวนมากคิดว่า ได้สร้างความลำบากให้อย่างมากในปัจจุบัน
matemnews.com
2 กุมภาพันธ์ 2562