Home ข่าวทั่วไปรอบวัน นิรโทษกรรมกัญชามีผล

นิรโทษกรรมกัญชามีผล

2020
0
SHARE

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 26 ก.พ.2562  ผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 ฉบับ ว่าด้วย การนิรโทษผู้ครอบครองกัญชา  ออกตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562       1.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข    เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สำหรับผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วย ตามมาตรา 22(2) ก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ ให้ไม่ต้องรับโทษ พ.ศ. 2562  กำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ครอบครองกัญชาก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย การใช้รักษาโรคเฉพาะตัว หรือการศึกษาวิจัย ต้องแจ้งลักษณะและปริมาณกัญชาที่มีไว้ในครอบครองภายใน 90 วัน นับแต่ พ.ร.บ.ใช้บังคับ ไม่ต้องรับโทษ มีดังนี้

       1.หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ เภสัชกรรม หรือวิทยาศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางเกษตรกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเภสัชกรรม หรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย 2.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

       3.สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย  สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์

4.ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน  ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือสหกรณ์การเกษตร  ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์

5.ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ

 6.ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องนำยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว

 7.ผู้ขออนุญาตอื่นตามที่รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดในกฎกระทรวง

       ผู้ขออนุญาตในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา  ต้องมีสัญชาติไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย และกรรมการของนิติบุคคลหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อยสองในสามต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีสำนักงานในประเทศไทย ทั้งนี้ สามารถดำเนินการแจ้งการครอบครองด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาประกาศ และหากคุณสมบัติผ่านจะได้รับหนังสือแสดงการครอบครองกัญชา

       2.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข   เรื่อง การครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อนพระราชบญัญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ พ.ศ. 2562

ให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว และมีไว้ในครอบครองก่อน พ.ร.บ.ใช้บังคับ ให้แสดงเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงอาการความเจ็บป่วยจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย ว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ภายใน 90 วัน ให้ใช้กัญชาดังกล่าวรักษาโรคเฉพาะตัวต่อไปได้

       ปริมาณของกัญชาที่มีไว้ในครอบครองในการรักษาโรคเฉพาะตัว ต้องเหมาะสมกับลักษณะของโรค โดยพิจารณาจากเอกสารหรือหลักฐานของผู้ประกอบวิชาชีพ ปริมาณที่จำเป็นต้องใช้ ต้องไม่เกิน 90 วันนับแต่วันที่ พ.ร.บ.ใช้บังคับ หรือจนกว่าจะได้รับการรักษาและได้รับกัญชาที่สั่งจ่ายจากหน่วยงานของรัฐ สภากาชาดไทย หรือผู้ประกอบวิชาชีพที่มีใบอนุญาต กรณีมีกัญชาไว้ในครอบครองปริมาณเกินตามวรรคหนึ่ง ให้แจ้งและส่งมอบกัญชาปริมาณที่เกินดังกล่าว แจ้งการครอบครองได้โดย กทม.แจ้งที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จังหวัดอื่นแจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือยื่นทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่เลขาธิการ อย.ประกาศ

3.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือให้ทำลายกัญชาที่ได้รับมอบจากบุคคล ซึ่งไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562

ให้กัญชาที่ได้รับมอบจากผู้มีไว้ในครอบครองก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ คือ ผู้ไม่ได้รับหนังสือแสดงการมีไว้ในครอบครองกัญชาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับแรก ให้ตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้แจ้งและส่งมอบกัญชาในท้องที่ของสถานที่ที่มีไว้ในครอบครอง โดย กทม.ให้แจ้งและส่งมอบที่ อย. จังหวัดอื่นให้แจ้งและส่งมอบที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

       ให้มี  คณะทำงานตรวจรับกัญชา จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ซึ่งแต่งตั้งโดย อย.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อตรวจรับกัญชาและส่งมอบให้กับคณะทำงานทำลายกัญชา ส่วนคณะทำงานทำลายกัญชา กำหนดให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน  

โดยเขตพื้นที่ กทม.ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้แต่งตั้ง มีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ อย. จังหวัดอื่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง มีผู้แทนจาก ปปส. ตำรวจภูธรจังหวัด และ สสจ. โดยให้เสนอปลัด สธ.หรือผู้ว่าฯ ขออนุมัติทำลาย กรณีมีผู้ประสงค์จะขอใช้ประโยชน์กัญชาที่มีผู้ส่งมอบ ให้แจ้งต่อ อย.หรือ สสจ. เพื่อเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณา จากนั้น อย.หรือ สสจ.จึงส่งมอบกัญชาให้ผู้ประสงค์ขอใช้ประโยชน์ต่อไปได้

       ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 3 ฉบับ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ลงนามโดย .น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข      

……………………………………………………………………………………………………………….

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สาหรับผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๖/๕ และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วย

ตามมาตรา ๒๒ (๒) ก่อนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ ให้ไม่ต้องรับโทษ

พ.ศ. ๒๕๖๒

โดยที่เป็นการสมควรกาหนดให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย

การใช้รักษาโรคเฉพาะตัว หรือการศึกษาวิจัยได้ แต่ด้วยมีหน่วยงานหรือบุคคลผู้ครอบครองยาเสพติดให้โทษ

ในประเภท ๕ เฉพาะกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้ก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ ไม่ต้องรับโทษ

หากมีการดาเนินการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๒ (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

ควบคุมยาเสพติดให้โทษ ในการประชุมครั้งที่ ๓๙๙-๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้หน่วยงานหรือบุคคลผู้ครอบครองกัญชาก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ เพื่อประโยชน์

ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย การใช้รักษาโรคเฉพาะตัว หรือการศึกษาวิจัย ดังต่อไปนี้ ต้องแจ้ง

ลักษณะและปริมาณกัญชาที่มีไว้ในครอบครองภายในเก้าสิบวันนับแต่พระราชบัญญัติดังกล่าว ใช้บังคับ

(๑) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์

วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ เภสัชกรรม หรือวิทยาศาสตร์

หรือมีหน้าที่ให้บริการทางเกษตรกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หรือเภสัชกรรม หรือหน่วยงานของรัฐ

ที่มีหน้าที่ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย

(๒) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม

ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพ

การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

(๓) สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย

และจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์

(๔) ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย

ว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือสหกรณ์การเกษตร

ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ ซึ่งดาเนินการภายใต้ความร่วมมือและกากับดูแล

ของผู้ขออนุญาตตาม (๑) หรือ (๓) ทั้งนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมดังกล่าว สามารถร่วมผลิต

และพัฒนาสูตรตารับยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรได้ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ภายใต้ความร่วมมือ

และกากับดูแลของผู้ขออนุญาตตาม (๑) หรือ (๓) ด้วย

(๕) ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ

หน้า ๒

เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

(๖) ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจาเป็นต้องนายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕

ติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว

(๗) ผู้ขออนุญาตอื่นตามที่รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกาหนดในกฎกระทรวง

ผู้ขออนุญาตตามวรรคหนึ่ง (๒) (๓) (๔) และ (๗) ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีสัญชาติไทย

และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย และกรรมการ

ของนิติบุคคลหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อยสองในสามต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีสานักงาน

ในประเทศไทย

ข้อ ๒ การแจ้งการมีไว้ในครอบครอง ตามข้อ ๑ ให้แจ้งต่อสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา

หรือสานักงานสาธารณสุขจังหวัดตามภูมิลาเนาที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ตั้งของสานักงานใหญ่กรณีเป็นนิติบุคคล

เมื่อครบกาหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒

ใช้บังคับ ให้สานักงานสาธารณสุขจังหวัดแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งมายังเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา

ด้วย

ข้อ ๓ การแจ้งการมีไว้ในครอบครอง ตามข้อ ๑ สามารถดาเนินการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกาหนด

ข้อ ๔ เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งพิจารณาคุณสมบัติของผู้แจ้งการมีไว้ในครอบครองว่าเป็น

ผู้มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามข้อ ๑ แล้ว ให้พิจารณาออกหนังสือแสดงการครอบครองยาเสพติด

ให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา ตามมาตรา ๒๒ (๑) แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ ทั้งนี้ จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตหรือมีคาสั่งไม่อนุญาตตามกฎกระทรวง

ที่ออกตามมาตรา ๒๖/๒ (๑) มาตรา ๒๖/๒ (๓) มาตรา ๒๖/๓ มาตรา ๓๔/๑ มาตรา ๓๔/๒

มาตรา ๓๔/๓ มาตรา ๓๔/๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒

แบบแจ้งการมีไว้ในครอบครองและหนังสือแสดงการมีไว้ในครอบครอง ให้เป็นไปตามแบบที่แนบท้าย

ประกาศนี้

ข้อ ๕ ให้ผู้แจ้งการมีไว้ในครอบครอง ตามข้อ ๑ แจ้งการครอบครองภายในระยะเวลา

เก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ ไม่ต้องรับโทษ

เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา

ข้อ ๖ บุคคลอื่นที่มีไว้ในครอบครองหรือไม่เข้าเงื่อนไขคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ ๑

ให้ผู้แจ้งรีบส่งมอบกัญชาที่เหลือต่อเจ้าหน้าที่โดยเร็วแต่ต้องไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติ

ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ

หน้า ๓

เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ข้อ ๗ ให้หน่วยงานผู้รับแจ้งการมีไว้ในครอบครอง ตามข้อ ๖ รวบรวมกัญชาที่รับมอบ

เพื่อดาเนินการ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกาหนดให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕

เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือให้ทาลายกัญชาที่ได้รับมอบจากบุคคล ซึ่งไม่ต้องรับโทษ

ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๘ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖2

ปิยะสกล สกลสัตยาทร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

หน้า ๔

เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

แบบ ย.ส. ๕-๑ เฉพาะกัญชา ตาม ม.๒๒ (๑)

แบบแจ้งการมีไว้ในครอบครอง

ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา

เขียนที่..……………………………………………..……………

วันที่..…………..…. เดือน…….……….…….พ.ศ.…………………..

๑. ข้าพเจ้า…………………………………………………………………………………………………..……………………………………

(ชื่อผู้แจ้งการมีไว้ในครอบครอง)

บัตรประจาตัวประชาชน เลขที่……………………………………………………………………………………………………….

หรือทะเบียนนิติบุคคล/บัตรประจาตัวผู้เสียภาษี เลขที่ ……………………………………………………………………..

อยู่เลขที่……………………….… ตรอก/ซอย……………..….………ถนน…………………………………………………………

หมู่ที่………………………………. ตาบล/แขวง………..………..… อาเภอ/เขต……………….……………….……………….

จังหวัด……………………………………………………..………………… โทรศัพท์……….……………………….……………….

เป็นบุคคล/หน่วยงานตามข้อ ๑ ของประกาศ และแนบหลักฐานแสดงมาพร้อมนี้ (ระบุรายละเอียด)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ขอแจ้งการมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา

ณ สถานที่ คือ……………………………………………………………………….……………..………………………………………..

(ชื่อสถานที่มีไว้ในครอบครอง)

อยู่เลขที่……………………….… ตรอก/ซอย………………………………..….……… ถนน………………………………..…….

หมู่ที่………………………………. ตาบล/แขวง…………………………..………..… อาเภอ/เขต…………..…….…………….

จังหวัด……………………………………………………………………………. โทรศัพท์………………..……………………………

ลักษณะและจานวน/ปริมาณกัญชาที่มีในครอบครอง………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

๓. วัตถุประสงค์ของการครอบครอง

 เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

 เพื่อการรักษาผู้ป่วย

 เพื่อการศึกษาวิจัย

๔. ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเมื่อกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๒๖ /๒ (๑) มาตรา ๒๖/๒ (๓) มาตรา ๒๖/๓

มาตรา ๓๔/๑ มาตรา ๓๔/๒ มาตรา ๓๔/๓ มาตรา ๓๔/๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติด

ให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับแล้ว ข้าพเจ้าจะยื่นคาขอรับใบอนุญาตตามกฎกระทรวง

ดังกล่าว ภายใน ๑๕ วัน หากพ้นกาหนดดังกล่าว แสดงว่าข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะดาเนินการ และจะส่งมอบ

กัญชาที่เหลือให้กับเจ้าหน้าที่ต่อไป

ลายมือชื่อ………………………………….…………………….ผู้แจ้ง

( )

หมายเหตุ ให้ขีดฆ่าข้อความที่ไม่ต้องการออก

เลขรับแจ้งที่……………………………….

วันที่…………………………………..………

(สาหรับเจ้าหน้าที่เป็นผู้กรอก)

แบบ ย.ส. ๕-๒ เฉพาะกัญชา ตาม ม.๒๒ (๑)

หนังสือแสดงการมีไว้ในครอบครอง

ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา

เลขรับแจ้ง ที่…………….

หนังสือฉบับนี้ให้ไว้แก่

………………………………………………………………………………………………

เพื่อแสดงว่าเป็นผู้มีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษหรือในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา

ตามมาตรา ๒๒ (๑) แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒

โดยมีสถานที่มีไว้ในครอบครอง ชื่อ………….……………………………………………………………………………………………

…….…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………..

อยู่เลขที่………………………………………..……………………….…. ตรอก/ซอย……..…..….………..…………………………..…

ถนน……..………………………….……….…..… หมู่ที่………………………..…. ตาบล/แขวง………………..…………………..….

อาเภอ/เขต………………………………….… จังหวัด…………………………….. โทรศัพท์………………………………………..….

ลักษณะและจานวน/ปริมาณกัญชาที่มีไว้ในครอบครอง……………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

หนังสือฉบับนี้ให้ใช้ได้จนกว่าจะมีคาสั่งไม่อนุญาตตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๒๖ /๒ (๑)

มาตรา ๒๖/๒ (๓) มาตรา ๒๖/๓ มาตรา ๓๔/๑ มาตรา ๓๔/๒ มาตรา ๓๔/๓ มาตรา ๓๔/๔ แก้ไขเพิ่มเติม

โดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ ๒๕๖๒ และให้ใช้ได้เฉพาะสถานที่ซึ่งระบุไว้ในหนังสือ

ฉบับนี้เท่านั้น

ให้ไว้ ณ วันที่………… เดือน………………………. พ.ศ. …………………….

………………………………………………..

ตาแหน่ง ………………………………………………

ผู้รับแจ้ง

matemnews.com 

26 ก.พ.2562