คณะลูกขุนแห่งศาลนครซานฟรานซิสโก มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าผลิตภัณฑ์กำจัดวัชพืช “ราวด์อัพ” ซึ่งมีส่วนผสมของไกลโซเฟต มี “ส่วนสำคัญ” ที่ทำให้ชายคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็ง
สารเคมีกำจัดวัชพืช “ราวด์อัพ” หรือที่รู้จักในฐานะเป็นยาฆ่าหญ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกษตรกรในหลายประเทศนิยมใช้ รวมทั้งในไทย การชี้ขาดของคณะลูกขุนในครั้งนี้ เป็นคดีที่สองจากการฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ราวด์อัพในสหรัฐฯ ประมาณ 11,200 คดี
บริษัทเวชภัณฑ์ไบเออร์ (Bayer) ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าราวด์อัพเป็นสารก่อมะเร็ง แต่คณะลูกขุนชี้อย่างเป็นเอกฉันท์ว่าสารเคมีกำจัดวัชพืชดังกล่าวมีส่วนทำให้นายเอ็ดวิน ฮาร์ดีแมน ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
นายฮาร์ดีแมน วัย 70 ปี ใช้สารกำจัดวัชพืชดังกล่าวเป็นประจำในช่วงปี 2980-2012 และได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma)
คดีของเขาถือเป็นคดีที่สองจากการฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ราวด์อัพในสหรัฐฯ ประมาณ 11,200 คดี โดยการพิจารณาคดีต่อจากนี้จะเป็นเรื่องความเสียหายและการรับผิดของไบเออร์
ด้านบริษัท ไบเออร์ เป็นบริษัทของเยอรมนีที่เข้าครอบครองกิจการรวมถึงผลิตภัณฑ์ราวด์อัพของมอนซานโตซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ไบเออร์ระบุว่าผิดหวังกับการตัดสินใจเบื้องต้นของคณะลูกขุน และ “มั่นใจว่าหลักฐานที่จะนำเสนอในการพิจารณาคดีระยะที่ 2 จะแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของมอนซานโตเป็นไปอย่างถูกต้อง และบริษัทไม่ควรรับผิดทางกฎหมายในเรื่องที่นายฮาร์ดีแมนเป็นมะเร็ง”
ขณะที่ บ.ไบเออร์ ยัง “เชื่อมั่นในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่าสารกำจัดวัชพืชที่มีไกลโซเฟตเป็นส่วนผสมหลักไม่ได้เป็นต้นเหตุทำให้เกิดมะเร็ง” อย่างไรก็ดี การพิจารณาคดีครั้งต่อไปนี้ คาดว่าทนายความของนายฮาร์ดีแมนจะนำเสนอหลักฐานที่ชี้ให้เห็นความพยายามของไบเออร์ในการเข้าไปแทรกแซงบรรดานักวิทยาศาสตร์ ผู้ตรวจสอบ และสาธารณชน ในเรื่องความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ของตน