วันที่ 3 เม.ย. 62 ประเทศบรูไน เริ่มบังคับใช้กฎหมายอาญาภายใต้กฎหมายชารีอะห์ ที่มีบทลงโทษรุนแรงแล้ว เช่น การเฆี่ยนตี การตัดมือและเท้า รวมถึงการขว้างปาหินใส่ผู้กระทำความผิดในข้อหาต่างๆ เช่น การลักขโมย การนอกใจคู่สมรส และการมีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้คัดค้าน เนื่องจากมีบทลงโทษรุนแรง เช่น โทษประหารชีวิตด้วยการปาหินใส่ชายที่มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน และผู้ประพฤติผิดฐานคบชู้ ชี้เป็นกฎหมายที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม และละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เรียกร้องให้สังคมคว่ำบาตรโรงแรมหรู 9 แห่งที่เกี่ยวข้องกับบรูไนเพื่อแสดงการประท้วงการเตรียมใช้กฎหมายรุนแรงฉบับนี้ โดยเฉพาะกฎหมายต่อต้านผู้มีพฤติกรรมชายรักชาย
ด้าน นางนภวรรณ โกละกะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศบรูไน จึงขอเตือนแรงงานไทยให้ปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะห์ อย่างเคร่งครัด เนื่องจากขณะนี้ทางการบรูไนได้มีประกาศว่าจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอาญา (Criminal Procedure Code Order 2018) ภายใต้กฎหมายชารีอะห์ ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป ซึ่งหากมีการกระทำความผิดจะมีอัตราโทษที่รุนแรง เช่น เฆี่ยน ตัดมือ การขว้างปาหินใส่ผู้กระทำความผิด และการแขวนคอ เป็นต้นโดยจะมีผลบังคับใช้ต่อชาวบรูไนทั้งหมด ทั้งที่นับถือศาสนาอิสลามหรือศาสนาอื่นๆ รวมทั้งชาวต่างชาติที่พำนักและอาศัยอยู่ในประเทศบรูไนด้วย
สำนักงานแรงงานในประเทศบรูไน จึงขอประกาศเตือนให้แรงงานไทยที่ทำงานในประเทศบรูไนทุกคน รวมถึงผู้ที่กำลังจะเดินทางมาทำงานที่ประเทศบรูไน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของกฎหมายดังกล่าวและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวได้