เมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอัยการอิตาลีระบุ 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โทษฐานที่ปล่อยให้ไฟจากเตาบาร์บีคิวบริเวณสวนหลังบ้านลุกลามหลุดจากการควบคุม โหมกระพือไฟป่าครอบคลุมเนื้อที่กว่า 1,000 เฮคเตอร์ (ราว 6,250 ไร่) และสั่งให้พวกเขาจ่ายค่าเสียหายคนละ 15.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 480 ล้านบาท)
เหตุเกิดขึ้นเมื่อ ตุลาคม ปี 2017 ขณะนักศึกษา 2 คนกำลังประกอบอาหารที่บ้านพักริมเขาของตายาย ในพื้นที่ด้านบนของทะเลสาบโคโม เมืองซาโวนา ประเทศอิตาลี หลังไฟเริ่มลุกไหม้ นศ. 1 ใน 2 คนได้แจ้งหน่วยดับเพลิงทันแต่ ขณะเดียวกันได้พยายามดับไฟแบบใช้ตัวเองล้มกลิ้งทับเปลวไฟด้วย อย่างไรก็ตามเปลวเพลิงกลับลุกลามอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมบริเวณ 1,000 เฮคเตอร์ ในนั้นรวมถึงฟาร์มแห่งหนึ่ง ซึ่งปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้ต้องมาตายเกือบหมด
หลังแกะรอยเส้นทางไฟป่ามรณะซึ่งย้อนกลับไปที่ยังบริเวณปิ้งย่างบาร์บิคิว พวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสรุปว่านักศึกษาทั้งสองคือต้นเหตุ และวางบิลค่าเสียหายมหาศาลน้ำตาแทบไหลตามสูตรมาตรฐานหนึ่ง ที่ 133 – 670 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บอกว่าจำนวนดังกล่าวถือว่าปราณีแล้ว โดยมีการลดค่าปรับให้กับวัยรุ่นทั้งสองคนกว่า 15 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดรวมความเสียหายที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ราวๆ 40 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
นักศึกษาทั้งสองยืนกรานว่าตนเองบริสุทธ์ พร้อมตอบโต้ว่าพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังใช้พวกเขาเป็น “แพะรับบาป” ในเหตุไฟป่าที่ปะทุขึ้นในหลายจุดและหาคำอธิบายไม่ได้
“อะไรคือความสมเหตุผสมผลของมาตรการลงโทษทางปกครอง พวกคุณก็รู้อยู้แล้ว่าเด็กทั้งสองคนยังเป็นนักศึกษา ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้หรอก” ไอวานา อาโนมาลิ ทนายความผู้ถูกกล่าวหาระบุ
อย่างไรก็ตามพวกเจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า จำนวนเงินดังกล่าวนั้นถือว่ามีความสมเหตุสมผล โดยเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นสัญญาณที่จำเป็นเพื่อผลักดันให้ผู้คนมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม”