Home ต่างประเทศ ทั่วโลกรุมประนามเหตุบอมบ์ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิต 215 คน ต่งาชาติเกือบ 40 ราย รวบผู้ต้องสงสัย 13 คน

ทั่วโลกรุมประนามเหตุบอมบ์ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิต 215 คน ต่งาชาติเกือบ 40 ราย รวบผู้ต้องสงสัย 13 คน

464
0
SHARE

ตำรวจศรีลังกา สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 13 ราย เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดสะเทือนขวัญถล่มโบสถ์คริสต์ และ โรงแรม 5 ดาว ในกรุงโคลัมโบ ของประเทศ ศรีลังกา ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 215 ราย ในที่นี้รวมชาวต่างชาติอีกเกือบ 40 ราย ด้านสมเด็จพระสันตปาปาและผู้นำทั่วโลกก็ออกมาประณามถึงการกระทำดังกล่าวแล้ว

 วันนี้ (22 เม.ย.62) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดซ้อน 8 ครั้ง ถล่มกรุงโคลัมโบ เมืองการค้าและเมืองหลวงของ ประเทศศรีลังกา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (21เม.ย.)ที่ผ่านมา เวลา 8.45 น. (เวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ 10.45 น. เวลาประเทศไทย)  ล่าสุดมีตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วถึง 215 ราย (และยังเพิ่มขึ้นอีก) ในที่นี้มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และ ชาวเนเธอร์แลนด์  เสียชีวิตจำนวน 35 ราย  ส่วนผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 450 คน ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล

โดยเหตุระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งหมด 8 ครั้ง ในวันเดียวกัน -ในโบสถ์ 3 แห่ง และโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวอีก 3 แห่ง ทั้งหมดนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายมีเป้าหมายเพื่อมุ่งสังหารชาวคริสต์ที่กำลังร่วมพิธี เฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ภายในโบสถ์ (วันที่ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูกลับฟื้นคืนชีพ 3 วันภายหลังสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน) และโรงแรมที่พักในแหล่งชุมชนพลุกพล่าน

โดยการก่อเหตุโจมตีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีอย่างน้อย 2 จุด คนร้ายใช้วิธีการจุดด้วยระเบิดแบบฆ่าตัวตาย และ เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองเมื่อ 10 ปีก่อน

ยอดผู้เสียชีวิตตามโบสถ์ 3 แห่ง มีดังนี้

โบสถ์คาทอลิก สไตล์โกธิก “เซนต์ เซบาสเตียน” ในเมือง คาตูวาปีตียา ทางตอนเหนือของกรุงโคลัมโบ ยอดผู้เสียชีวิตเบื้องต้นมีอย่างน้อย 70 ราย มีร่างผู้เสียชีวิตเกลื่อนพื้น คราบเลือดจำนวนมากบนเก้าอี้นั่งในโบสถ์ และ หลังคาโบสถ์พังถล่ม เสียหาย

โบสถ์นิกายโปรแตสแตนท์ ใน เมืองบัตติคคาโล จังหวัดอีสเทิร์น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย

โบสถ์เซนต์ แอนโธนี ศาสนสถานยอดนิยมในเมืองโคชชีกาเด กรุงโคลัมโบ  มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ได้เกิดเหตุระเบิดพร้อมกันที่โรงแรมระดับ 5 ดาว 3 แห่ง คือ โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมซินนามอน แกรนด์  และ โรงแรมคิงส์ บิวรี  ทั้งหมดอยู่กลางกรุงโคลัมโบ

ขณะที่ นาย รานิล วิครามาสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ได้สั่งประกาศฉุกเฉินทันที พร้อมยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามบินนานาชาติ รวมทั้งประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกบ้านตั้งแต่ 18.00 น.วันนี้ ไปจนถึง 06.00 น.ของ วันรุ่งขึ้น (เช้าวันนี้) โดยประกาศเคอร์ฟิวจะมีไปจนเหตุการณ์คลี่คลายลง

นอกจากนั้น ยังมีการสั่งปิดการเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเช่น เฟซบุ๊กและแอปพลิเคชั่นแชทต่างๆแล้ว เพื่อป้องกันข่าวเท็จ และ การสื่อสารข้อมูลที่คลาดเคลื่อน อาจจะสร้างความสับสนแก่ประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติของศรีลังกา ระบุว่ามีตำรวจ 3 นาย ถูกระเบิดจนเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 13 ราย ที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าว  ทำให้มีฝูงชนจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าว และอยู่ในอาการโกรธแค้น ต่างเข้าไปหวังรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องสงสัยจนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย

ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของศรีลังกา ได้ส่งข่าวกรองแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อ 10 วัน ก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มเอ็นทีเจ NTJ  กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในศรีลังกา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพระพุทธรูปเมื่อปีที่แล้ว – กำลังวางแผนโจมตีโบสถ์ต่างๆ ตามที่ต่างๆ ในกรุงโคลัมโบ ด้วยวิธีการระเบิดฆ่าตัวตาย  แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้

หัวหน้ารัฐบาลสำคัญประณามการโจมตี

ด้านผู้นำจากหลายประเทศ ได้ประนามเหตุความรุนแรงและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ทรัมป์ ได้ระบุ “ขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ” ต่อประชาชนชาวศรีลังกาและพร้อมที่จะช่วยเหลือ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi กล่าวว่า “เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน” และประธานาธิบดีตุรกี “มองว่า การกระทำดังกล่วเป็นการจู่โจมต่อมนุษยชาติทั้งหมด”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าวระหว่างปราศรัยต่อหน้าผู้คนในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ว่า “ขอให้ทุกคนร่วมตั้งจิตอธิษฐานให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้”

นายกรัฐมนตรีจาซินดาอาร์เดอร์น แห่งนิวซีแลนด์ ซึ่งเคยเกิดเหตุมือปืนยิงเสียชีวิต 50 คนในมัสยิดสองแห่งเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ออกแถลงการณ์ ว่า ต้องเร่งหากลุ่มผู้กระทำผิด เพื่อร่วมยุติความรุนแรงดังกล่าว

https://reut.rs/2GyQznH

ภาพ สำนักข่าว รอยเตอร์