วันที่ 25 เม.ย. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์และมหาวิทยาลัยรังสิต ในการวิจัยสารสกัดกัญชายับยั้งเซลล์มะเร็งปอดในคน ทั้งใน รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ว่า สธ.ยินดีเรื่องงานวิจัย ทุกแห่งสามารถขอทำวิจัยได้ แต่การจะผลิตออกมาเป็นยาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย คือ ช่วง 5 ปีแรกที่ต้องร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สำหรับกรณีการจัดทำขนมไทยผสมกัญชาส่งขายต่างประเทศนั้น หากเป็นการผลิตและทำขายในประเทศที่กฎหมายอนุญาต สามารถทำได้ ซึ่งประเทศที่กฎหมายอนุญาตเช่นนี้มีไม่กี่แห่ง อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย “อนุญาตใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์เท่านั้น” ซึ่งถือเป็นประเทศแรกๆ ในภูมิภาคอาเซียน จึงอยากให้ใช้ประโยชน์ในเรื่องทางการแพทย์รักษาโรคให้เต็มที่ก่อน อย่าเพิ่งกระจายภาคส่วนอื่น แต่อาจเตรียมการไว้ได้ แต่ไม่ใช่ในระยะนี้แน่นอน อาจเป็นอีกหลายปีข้างหน้า
“กัญชามีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ ทีเอชซี และ ซีบีดี โดยสารที่เอชซีมีฤทธิ์ทำให้ติดและมึนเมา คล้ายสารเสพติด ส่วนซีบีดีมีประโยชน์ทางการแพทย์ ใช้ในการรักษาโรคสมอง โรคลมชัก ซึ่งในต่างประเทศที่ใช้กัญชาก็อนุญาตสารซีบีดี ทั้งนี้ กัญชามีทั้งข้อดีและข้อเสีย มิเช่นนั้นทั่วโลกคงไม่ประกาศเป็นยาเสพติด แต่เราได้โอกาสที่กฎหมายเปิดช่องให้ใช้ในเรื่องของการรักษาได้ ส่วนเรื่องของสันทนาการก็ต้องระวัง เพราะอย่างในสหรัฐอเมริกา รัฐโคโลราโด ที่เปิดให้ใช้เสรี พบว่ามีอุบัติเหตุจราจรสูงขึ้น ทั้งจากเมาเหล้าและเมากัญชา” นพ.ปิยะสกล กล่าว