ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่มูลนิธิข้าวขวัญ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลังจากอาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ได้ใบรับรองจาก สนง.สาธารณสุข จ.สุพรรณบุรี ในการเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว ตามระเบียบกรมพัฒนาแผนไทยและการแพทย์ทางเลือกว่าด้วยการออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
ปรากฎว่า มีประชาชนทยอยเดินทางลงทะเบียน ขอรับยาน้ำมันสกัดกัญชาต่อเนื่อง แต่หลายคนต้องผิดหวัง เนื่องจากขณะนี้ทางมูลนิธิยังไม่มียามอบให้กับผู้ป่วย
แต่ทางมูลนิธิฯ ได้ตั้งโต้ะลงทะเบียน บริเวณด้านหน้ามูลนิธิฯ ซึ่งแต่ละวันมีผู้ป่วยจำนวนมากเข้าลงทะเบียน โดยเดินทางมาจากทั้งเหนือ อีสาน ใต้ ทางเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของมูลนิธิฯ ได้ให้ผู้ป่วย หรือญาติ กรอกข้อมูล ประวัติผู้ป่วย อาการ และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
ส่วนการให้สัมภาษณ์สื่อนั้นทางตัวแทนจากมูลนิธิข้าวขวัญได้แจ้งว่า ขณะนี้อาจารย์เดชา ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ซึ่งขอให้ติดตามความเคลื่อนไหวจากเฟซบุ๊กของ “ไบโอไทย” ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก ไบโอไทย ได้โพสต์ข้อความมีเนื้อหาดังนี้… ขณะนี้ทางเลือกในการแจกจ่าย “น้ำมันเดชา” ของอาจารย์เดชา ศิริภัทร มี 2 แนวทาง แนวทางแรก เป็นแนวทางหมอพื้นบ้านที่ผ่านการกำกับดูแลโดยกรมการแพทย์แผนไทย ส่วนอีกแนวทางเป็นการวิจัยร่วมกับ 3 มหาวิทยาลัย (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยรังสิต) โดยผ่านขั้นตอนการขออนุญาตตามรายละเอียด
ไบโอไทยคาดการณ์ว่า ผู้ป่วยในเครือข่ายอาจารย์เดชาจะได้รับยาอย่างเร็ว คือ กลางพฤษภาคม 2562 แต่อาจล่าช้ากว่านั้นหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างกฎระเบียบเป็นที่ตั้ง โดยไม่พยายามหาวิธีการเพื่อให้บรรลุเจตนาของสังคมที่ต้องการให้มีการเร่งรัดการใช้กัญชาทางการแพทย์ และไม่ตระหนักว่ามีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากกำลังรอได้รับยาซึ่งจะช่วยเยียวยาหรือบรรเทาความทุกข์ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ยังมีขั้นตอนสำคัญอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำร้องขอให้มีกัญชาไว้ครอบครองในช่วงนิรโทษกรรม ต้องรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก่อนหมดระยะเวลานิรโทษกรรม ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นต้องมาลุ้นต่อว่า “หมอเดชา” จะสามารถแจกจ่ายน้ำมันเดชา ได้หรือไม่ เพราะการแจกจ่ายยาจากกัญชาได้นั้น ต้องเป็นตำรับยาที่ได้รับการประกาศจากกรมการแพทย์แผนไทยฯก่อน โดยขณะนี้กรมฯได้ประกาศตำรับยากัญชาเพียง 16 ตำรับเท่านั้น ระหว่างนี้กรมฯจำเป็นต้องจัดให้มีการประชุมพิจารณาว่าจะขยายตำรับยากัญชาให้ครอบคลุมน้ำมันเดชาหรือไม่ ผู้ป่วยโปรดรอต่อไป
