หุ้นสื่อกลายเป็นของร้อนในเกมส์ยุบพรรรคการเมือง พรรคเพื่อไทยขอเล่นด้วยคน โดยเมื่อตอนบ่าย 30 เม.ย.2562 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทย นั่งโต๊ะแถลงข่าวที่ทำการพรรคเพื่อไทย ประเด็น นายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถือหุ้นสื่อ ว่า
“ต้องการให้ประเทศเป็นนิติรัฐ ทุกคนเคารพกฎหมายเท่าเทียม ผมจึงจะร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้จบสิ้นกระบวนความไม่ค้างคา จึงจะร้องตัวนายชาญวิทย์ และร้องนายชาญวิทย์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร.ฐานจงใจกระทำความผิด จึงจะร้องไปยัง กกต.ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากพิจารณาว่านายชาญวิทย์ขาดคุณสมบัติ ก็ต้องเลือกตั้งใหม่ เพราะนายชาญวิทย์ชนะเลือกตั้งอยู่ในขณะนี้ และนายชาญวิทย์เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค ฉะนั้นโยงใยไปถึงอำนาจหน้าที่และการปฎิบัติอันชอบและไม่ชอบของกรรมการบริหารพรรค และมีผลต่อสถานะของพรรค พปชร.ดังนั้น ขอให้ กกต.พิจารณานำเรื่องไปพิจารณาและนำเรื่องไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรค พปชร.ด้วย ทั้งนี้ เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามกติกาตามของระบอบประชาธิปไตย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องโกรธกัน อย่าคิดว่าเป็นการทำลายกัน เป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ ที่เห็นว่าผิดนายชาญวิทย์เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขณะที่เลือกตั้งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท และบริษัทดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเป็นนิติบุคคล ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ ให้บริการสื่อมวลชนได้แก่ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทันศ์ เพราะฉะนั้นถือได้ว่าท่านถือหุ้นอยู่ในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 89(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรนูญว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 42(3) ถือว่าท่านเป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการที่บุคคลใดจะลงสมัครรับเลือกตั้ง และต้องผ่านการลงนามของกรรมการบริหารพรคคก่อนลงสมัครการเลือกตั้ง แต่ขณะนั้นนายชาญวิทย์ เป็นกรรมการบริหารด้วยเช่นกัน ก็แสดงให้เห็นว่ากรรมการบริหารทั้งหลายมีส่วนรู้เห็น มีส่วนรับรู้ส่งผู้สมัครโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย มีบทบัญญัติให้กรรมการบริหารควบคุมดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ยุติธรรม กรณีนี้ถือเสมือนว่ากรรมการบริหารทำผิดกฎหมายเสียเอง ดังนั้น กรรมการบริหารต้องรับผิดชอบ หาก กกต.มีมติว่าทำผิดกฎหมาย กกต.ก็มีอำนาจยื่นศาลให้ยุบพรรคการเมืองนั้นได้ ส่วนการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องเพิกถอนการรับสมัครการเรื่องตั้ง และผู้สมัครเป็นผู้สมัครที่มีคะแนนมาอันดับ 1 กกต.ต้องระงับการประกาศผลการเลือกตั้งในเขตนั้น จากนั้นต้องไต่สวนสอบสวนกรรมการบริหารพรรคว่าต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าเห็นว่าต้องรับผิดชอบก็ต้องมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารนั้นตามกฎหมายต่อไป ผมจะไปยื่นหนังสือ กกต.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.”
matemnews.com
30 เมษายน 2562