นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี แถลงข่าว 15 พ.ค.2562 ว่าด้วย ความคืบหน้าในการแจก “น้ำมันกัญชา” ของ นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ว่า การใช้ยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมทางการแพทย์ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
1.ยาภายใต้การกำกับดูแลของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีอยู่ 2 แบบ คือ ตำรับยาที่มีอยู่ในตำรายาดั้งเดิม ประกาศออกมาแล้ว 16 ตำรับ และตำรับยาของหมอพื้นบ้าน น้ำมันกัญชาของ อ.เดชา น่าจะเข้าในส่วนนี้มากกว่า โดยวันที่ 16 พ.ค.2562 กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่า น้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชา จัดเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมหรือไม่ เรื่องนี้อาจารย์เดชา ค่อนข้างเป็นกังวล เพราะเท่าที่ประเมินมีคนที่มาลงชื่อเพื่อขอรับน้ำมันกัญชากับทางมูลนิธิฯ ประมาณ 20,000 กว่าคนแล้ว ตรงนี้เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น หากกรมฯ ไม่รับรองตำรับยานี้ก็จะมีปัญหาทันที ทำให้ไม่สามารถแจกยาได้ แต่หากพิจารณาว่าเข้าข่ายตามเกณฑ์ของกรมฯ และเป็นตำรับยาอันดับที่ 17 อาจารย์เดชา ในฐานะหมอพื้นบ้านก็จะสามารถแจกจ่ายน้ำมันกัญชานี้ได้ หรือหากกรมฯ มองว่าการสกัดของอาจารย์เดชา เป็นวิธีสมัยใหม่ ก็อาจเสนอให้ปรับสูตรวิธีการสกัดเป็นแบบพื้นบ้านตามเกณฑ์ของกรมฯ ได้ เช่น การใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันชนิดอื่น เป็นต้น อาจารย์เดชา ก็พร้อมที่จะปรับสูตร จึงอยากให้กรมฯ พิจารณาโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ป่วยด้วย” นายวิฑูรย์ กล่าว
2.การใช้ยากัญชาผ่านโครงการวิจัย การวิจัยน้ำมันกัญชาของอาจารย์เดชา ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะนี้ยื่นเสนอคณะกรรมการจริยธรรมในการวิจัยในคนไปแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติ และจะต้องผ่านการอนุมัติโครงการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วย เรียกว่าทั้งสองทางจะต้องดำเนินการไปพร้อมกัน จะหวังพึ่งแค่การแจกยาผ่านการทำโครงการวิจัยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะคนที่จะรับยาก็มีจำกัด แต่หากสามารถผลักดันให้เป็นตำรับยาที่ 17 ได้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างมาก
matemnews.com
15 พฤษภาคม 2562