วันที่ 25 มิ.ย. กรณีเจ้าหน้าที่ ปส.ภาค 6 บุกจับ นางประชุม มากบุญ อายุ 61 ปี แม่ของ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท.บช.ทท. หรือสารวัตรแย้ ขณะรับพัสดุไปรษณีย์ที่บ้านในพื้นที่ ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งหน้ากล่องระบุชื่อส่งถึง นายพิเชษฐ เสาแบน โดยพบยาไอซ์ 50 กรัม และและยาอี 50 เม็ด โดย นางประชุม ให้การปฏิเสธ พร้อมกับเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากสงสัยถูกขบวนการค้ายาเสพติดกลั่นแกล้ง จนกระทั่งมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบเป็นชายนำพัสดุจำนวน 6กล่อง ที่ผู้ต้องสงสัยนำมาส่งEMSที่ไปรษณีย์สตึก ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
(อ่านข่าวก่อนหน้า https://matemnews.com/News/74348 )
จากข้อมูลตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดแจ้งว่ามีการถูกจัดส่งไปที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (ยาไอซ์ 50 กรัม ยาอี 50 เม็ด) ,อ.ชุมแพ (ยาบ้า 180 เม็ด) จ.ขอนแก่น ,อ.เขาพนม จ.กระบี่ (ยาบ้า 200 เม็ด) ,อ.เมืองระนอง จ.ระนอง (ยาบ้า 200 เม็ด) ,อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ (ยาบ้า 200 เม็ด) ,อ.เมืองนครศรีธรรมราช (ยาบ้า180 เม็ด) และจังหวัดในภาคใต้อีก 1 จังหวัด และพบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ส่งระบุชื่อนายพนมทวน แซ่หวาง อายุ 31 ปี เป็นชาว อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งภาพชายจากกล้องวงจรปิด มีใบหน้าไม่ตรงกับบัตรประชาชนที่ใช้เป็นหลักฐานยื่นให้ไปรษณีย์ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เร่งแกะรอยผู้ต้องสงสัยและเส้นทางการเดินทาง จนกระทั่งพบชายต้องสงสัยเช่าห้องพักอยู่ในเขตเทศบาลสตึก อ.สตึก
พ.ต.อ.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ เผยว่า หลังทราบเบาะแส จึงสั่งให้จนท.เร่งติดตามเพราะเกรงผู้ต้องสงสัยจะหลบหนี
ล่าสุด 13.00 น. มีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมชายต้องสงสัยดังกล่าวได้แล้วในพื้นที่ อ.สตึก ทราบชื่อ นายศักดิ์ มิ่งเมือง อายุ 25 ปี เป็นชาว จ.พะเยา มาทำงานก่อสร้างที่ อ.สตึก ได้ประมาณปีเศษ พบยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่งมาจากจังหวัดพิษณุโลก พร้อมกับบัตรประชาชนผู้อื่นอีก 5-6 ใบ ขณะนี้ตำรวจนำตัวไปสอบสวนเพื่อขยายผลถึงที่มาของยาเสพติด เพราะอาจเชื่อมโยงไปถึงผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังของการกระทำดังกล่าว ว่า กระทำการเพียงคนเดียว หรือมีผู้จ้างวาน เพราะเหตุใดจึงส่งพัสดุกระจายแก่บุคคล มีความสนิทสนมส่วนตัว หรือความแค้นส่วนตัวกับปลายทางหรือไม่ หรืออาจเป็นการจ้างวานจากผู้ใดหรือฝ่ายใด ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใดๆจนกว่าจะสอบสวนเสร็จ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าพัสดุทั้ง 6 กล่อง ตนเองเป็นคนไปส่งจริง โดยพัสดุทั้ง 6 กล่องมีคนส่งมาให้จาก จ.พิษณุโลก พร้อมกับรายชื่อลูกค้าที่ให้ส่งต่อ จากนั้นตนเองมีหน้าที่รับจ้างส่งต่อตามคำสั่งเท่านั้น ส่วนกล่องพัสดุที่แม่สารวัตรแย้เป็นคนเซ็นรับนั้น ตนก็ส่งตามรายชื่อโดยระบุชื่อผู้รับว่า “นายพิเชษฐ เสาแบน” จึงไม่รู้ว่าปลายทางเป็นใคร แต่มารู้หลังเป็นข่าวคราวว่าเป็น พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ เพราะตนเพียงรับจ้างส่งของตามรายชื่อเท่านั้น และทำเป็นครั้งแรกเพราะตกงาน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ มั่นใจว่าน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ แต่จะเกี่ยวข้องกับสารวัตรแย้ หรือไม่นั้น ก็ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนบัตรประจำตัวประชาชนที่นำไปยื่นกับทางไปรษณีย์เพื่อใช้ส่งพัสดุก็ไม่ใช่ของตนเอง แต่ถูกส่งมาพร้อมพัสดุและรายชื่อลูกค้า จาก จ.พิษณุโลก เช่นกัน
