Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เจ้าของโรงงาน แจ้งกองปราบฯ ถูกจนท.รัฐกลั่นแกล้ง

เจ้าของโรงงาน แจ้งกองปราบฯ ถูกจนท.รัฐกลั่นแกล้ง

425
0
SHARE

เจ้าของธุรกิจขายยางรถยนต์ ร้องกองปราบเอาผิด เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ตร. และเจ้าหน้าที่รัฐ นำคำสั่ง คสช. เข้าตรวจค้นและจับกุม ฐานปล่อยเงินกู้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 

นายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมนายประเสริฐ พิมพาภรณ์ อายุ 75 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.เอส.โอ.อิมปอร์ต(ไทยแลนด์) ซึ่งเป็นโรงงานนำเข้าขายยางรถยนต์ ในจังหวัดสมุทรสาคร เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม แจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร  ประกอบด้วย กอ.รมน., ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,ตำรวจ สภ.เมือง, เจ้าหน้าที่จัดหาแรงงาน และเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัด รวม 29 รายในหลายข้อหา อาทิ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ฯลฯ

นายอนันตชัย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทหาร กอ.รมน.สนธิกำลัง นำคำสั่ง คสช ที่ 13/2559 ร่วมกับ ตร., ตม และอีกหลายหน่วยงาน เข้าตรวจค้นและจับกุมนายประเสริฐ ในโรงงานโดยอ้างว่าในโรงงานมีแรงงานเถื่อน ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่จำนวนมาก  แต่จากการตรวจค้นจับกุมแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างกฎหมาย แต่ใบอนุญาตหมดอายุ ได้เพียง 1 คน  พร้อมได้ยึดเอกสารโฉนดที่ดินของนายประเสริฐ ไปรวม 52 ฉบับ   จากนั้น เจ้าหน้าที่ ได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินลงวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีการจับกุมนำตัวนายประเสริฐ ส่ง สภ.หัวหิน เจ้าของพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาให้มีการทำบันทึกข้อตกลงในการลดหนี้และดอกเบี้ยให้กับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกหนี้ ที่มาชักชวนให้ร่วมลงทุน สร้างบ้านจัดสรร เมื่อปี 2559 โดยนายประเสริฐ ทำสัญญากู้เงิน 15 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15ต่อปี โดยหญิงคนดังกล่าวได้มอบโฉนดที่ดินไว้เป็นหลักประกัน  และสัญญาจะให้ผลตอบแทนอัตราร้อยละ 15 ต่อปี แต่ปรากฏว่าได้ผลตอบแทนการลงทุนเพียง 600,000 บาทซึ่งไม่ใช่ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

พร้อมมองว่า การกระทำของ เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ใช้คำสั่งของ คสช. เป็นเครื่องมือ เป็นการกระทำที่มิชอบ กลั่นแกล้งประชาชน ผู้บริสุทธิ์  และยังเป็นการหาผลประโยชน์ในเรื่องส่วนตัว  อีกทั้งทำให้ผู้เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ธุรกิจการค้าเสียหาย  จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 

อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้รับเรื่องไว้ พร้อมส่งเรื่องต่อให้กับตำรวจ ปปป. ดำเนินการต่อ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหา เป็นข้าราชการ ทหารตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ