ห่วงหญิงไทยเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองในบ้าน
สำนักข่าวไทย10 ส.ค.- นักวิชาการห่วงหญิงไทยเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง 81% บ้านยังเป็นสถานที่รับควันบุหรี่ ชี้ 20 ส.ค.นี้ บังคับใช้กฎหมายสูบบุหรี่ในบ้านถือเป็นความรุนแรงในครอบครัว
ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองเฉลี่ยปีละ 430,000 ราย โดยผู้หญิง 2 ใน 3 ต้องเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง ซึ่งผู้หญิงที่มีสมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่มีโอกาสที่จะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง ดังนั้น ศจย. จึงสนับสนุน การวิจัย ‘พฤติกรรมการหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่มือสองของผู้หญิงที่มีสมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ พ.ศ.2561’ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้หญิงที่มารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่หน่วยตรวจโรคนรีเวชวิทยา โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 385 คน
“ซึ่งผลการวิจัยพบว่า 81% บ้าน เป็นสถานที่รับควันบุหรี่มือสองจากคนในครอบครัวมากที่สุด และ 97% สมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ 1-2 คน โดยผู้หญิง 96% รับรู้ประโยชน์การหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง และ 65% มีพฤติกรรมปฏิเสธที่จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีควันบุหรี่มือสอง ทั้งนี้การรับรู้ประโยชน์การหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสองมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสองอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นควรส่งเสริมให้ผู้หญิงตระหนักถึงความสำคัญในการหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและอาจเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง” ศ.นพ.รณชัย กล่าว
ศ.นพ.รณชัย กล่าวต่อว่า ถ้าคนในครอบครัวสูบบุหรี่ในบ้าน ถือว่าเป็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัวโดยเจตนาให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ ซึ่งมีความผิดตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ.2562 โดยนิยามคำว่า ‘ความรุนแรงในครอบครัว’ คือ การกระทำใดๆในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ ซึ่งผู้ได้รับควันบุหรี่ถือเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรง สามารถแจ้งศูนย์ส่งเสริมและคุ้มครองครอบครัวซึ่งมีทุกจังหวัด (โทร. 1300) จากนั้นหัวหน้าศูนย์ส่งเสริมฯ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีการคุ้มครองสวัสดิภาพ และมีอำนาจออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพได้เท่าที่จำเป็น พร้อมกับทำคำร้องและคำสั่งไปยื่นต่อศาลภายใน 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ 20 สิงหาคม พ.ศ.2562 จะบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ จึงอยากขอร้องให้คนที่สูบบุหรี่ เลิกสูบบุหรี่ในบ้าน เพราะผลกระทบรุนแรงต่อคนในครอบครัว (ถึงเวลาที่บ้านควรปลอดบุหรี่ 100%). – สำนักข่าวไทย
เป็นข่าวที่ผม นายฉลามเขียว อ่านแล้วเกิดความรู้สึกเศร้าหมองที่สุด
คอลัมนิสต์รุ่นพี่เตือนผมอยู่เสมอ การจะเป็นนักเขียนในสื่อมวลชนที่ดี อย่าใช้คำว่า “ที่สุด” เพราะโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่สุด แต่ผมก็ดื้อนะครับ วันนี้ผมก็ใช้คำว่าที่สุดอีก เพราะมันเป็นความรู้สึกขมขื่น เศร้าหมองที่สุดจริง
จะให้ผู้หญิงไปร้องให้ท่านมาจัดการคนที่สูบบุหรี่ในบ้าน
มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ
มันจะมีผู้หญิงกล้าหาญขนาดนั้นได้ไง
จึงเป็นข่าวที่ผมเศร้าหมองที่สุด
คณะองค์กรที่ปรากฏชื่อในข่าว ท่านก็ทำดีแล้วนะครับ คิดอ่านช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์สูดควันบุหรี่จากคนในบ้านของตัวเอง แต่มันไม่ได้ผลหรอก ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้า
แต่มีผู้ชายคนหนึ่งครับที่จะช่วยเหลือผู้หญิงทั้งประเทศไทยได้ ชื่อว่า “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” พระเอกของคนไทยในเวลานี้ มหาบุรุษผู้ประสบความสำเร็จงดงามในการผลักดันกัญชาเสรีทางการแพทย์ 3 คำสั่งที่อนุทินเซ็นมีผลแล้ว 9 ส.ค.2560 “หมอพื้นบ้านปรุงยากัญชาสูตรของตัวเองได้”
จากนี้ไปเราประชาชนก็รออ่านข่าว หมอพื้นบ้านจะถูกเจ้าหน้าที่รัฐสารพัดหน่วยบุกจับขณะกำลังปรุงยาวันละกี่คน เพราะ “กัญชายังเป็นยาเสพติดตามกฎหมายไทย”
ผมเชื่อว่า รองนายกฯอนุทินจะเดินไปสุดถนน เอากัญชาออกจากเสพติดในกฎหมายไทยได้สำเร็จ
ผมเชื่อว่าเดือนสิงหาคมนี้ ท่านจะเซ็นคำสั่งอีกฉบับเอา “กัญชง” ที่อุดมด้วยสาร CBD ออกจากยาเสพติดในกฎหมายไทย
CBD ไม่ใช่สารเสพติด
ผมก็อยากเขียนยาวๆ ถ้ารองนายกฯอนุทินเอา CBD ออกจากยาเสพติดไทยได้มันจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากต้นกัญชงออกมาวางตลาดมากมายขนาดไหน ชาวบ้านไทยจะร่ำรวยลืมตาอ้าปากได้จากต้นกัญชงมากมายอย่างไร
แต่ข้อเขียนของผมซีรีส์นี้ คือ ชี้ช่องให้ท่านว่า รองนายกฯอนุทินคือคนที่จะทำให้คนไทยพ้นจากควันบุรี่ได้ แค่ท่านรับงานและลงมือ จึงเขียน CBD สั้นๆ
กัญชายากกว่ามาก การทำให้คนไทยรอดพ้นจากควันบุรี่ง่ายกว่า และจะมีคนไทยได้ประโยชน์มากกว่ากัญชา
ด้วยการ
เลิกประกาศแบนนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ของกระทรวงพาณิชย์
ยกเลิกประกาศคำสั่งของ สคบ.แบนบุหรี่ไฟฟ้า
ผมเชื่อว่า ถ้าข้อเขียนของผมไปถึงการรับรู้ของท่านรองนายกฯอนุทินท่านรับงานนี้แน่ ซึ่งผมกำลังยุให้บรรดาผู้คนในชมรมบริโภคบุหรี่ไฟฟ้ารวมตัวกัน เป็นม็อบใหญ่ไปขอพบรองนายกฯอนุทินมันจึงจะเกิดพลัง
ผมแจ้งผ่านไปถึงแกนนำในชมรมว่า อย่ายื่นหนังสือเหมือนที่เคยทำมาแล้วนะครับ ยื่นไปมันก็เงียบกริบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จงทำให้เกิดม็อบ เป็นข่าวในสื่ออนุทินอาจจะสนใจ
ตัวผมขอประกาศให้บรรดาแกนนำชมรมบริโภคบุหรี่ไฟฟ้ารับรู้เลยนะครับ นายฉลามเขียว ยินดีสนับสนุนการเคลื่อนไหวของบรรดาท่าน
ก่อนนี้ผมเคยทำงานให้รองนายกฯอนุทิน แต่ตอนนี้เข้าไม่ถึงท่านแล้ว จึงได้แค่เขียนหนังสือ ก็มั่นใจว่าคงจะมีคนไปเล่าให้ท่านฟัง
ต้องให้รองนายกฯอนุทินรับนัดก่อนนะครับ อย่ายกม็อบบุกไปเลย จะไม่มีผลเกิดขึ้น และวันที่ม็อบไปผมขอไปด้วย ไปดูใกล้ๆเผื่อท่านอนุทินจำหน้าผมได้
วันนี้ ผมขอเขียนกระตุ้นให้แกนนำบริโภคบุหรี่ไฟฟ้า แสวงหา แล้วเชิญแกนนำสตรีที่เคลื่อนไหวปกป้องสตรีให้รอดพ้นจากควันบุหรี่ มาร่วมขบวนการ ร่วมม็อบ ยกไปพบรองนายกฯอนุทิน มันจึงจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
ผมขอย้ำกับคณะกรรมการควบคุมยาสูบนะครับ อย่าเล่นงานฉลามเขียวนะ สิ่งที่ผมเขียนไม่ใช่สนับสนุนให้คนใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือบารากู่ ผมแค่แจ้งให้คนไทยรับรู้ว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือบารากู่ ไม่เกิดควัน ไม่เหมือนการสูบบุหรี่จุดไฟที่ควันมันโขมงไปทั่ว คนไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดจากการโดนควันบุหรี่ ดังที่นักรักบี้ทีมชาติไทยกำลังเจ็บป่วย
บุหรี่ไฟฟ้าหรือบารากู้ คือ การดูดละอองน้ำนิโคติน
ชมรมบุหรี่ไฟฟ้า ขบวนการสตรีต่อต้านการไม่สูบบุหรี่ ลงมือไวๆเลยนะครับ ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้อีกวัน โดนไล่ให้ลาออกทั้งวัน
กระชั้นเหลือเกินแล้ว
ฉลามเขียว
matemnews.com
10 สิงหาคม 2562