Home ข่าวทั่วไปรอบวัน กัญชง…ปลดล็อคเป็นพืชเศรษฐกิจแล้ว

กัญชง…ปลดล็อคเป็นพืชเศรษฐกิจแล้ว

920
0
SHARE

 

 

คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ มีการประชุมเมื่อบ่าย 13 ส.ค.2562 เลิกแล้ว  นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว ว่า

 

“การประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดฯ ครั้งก่อนมีการนำตำรับน้ำมันกัญชาสูตร นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ มาพิจารณา ตัวตำรับไม่ได้มีปัญหา มีความปลอดภัย แต่ติดที่นายเดชา ยังไม่ได้เป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย  โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้านฉบับที่ 2 เพื่อให้หมอพื้นบ้านตามระเบียบแล้ว การประชุมในครั้งนี้จึงเห็นชอบรับรองตำรับน้ำมันกัญชาของนายเดชา นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องของการคลายล็อกกัญชงเพื่อเศรษฐกิจด้วย”

 

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลง ว่า คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดฯ เห็นชอบตำรับยาหมอพื้นบ้านที่มีกัญชาปรุงผสม 2 ตำรับ คือ ตำรับยาจอดกระดูก ของนายนาด ศรีหาตา หมอพื้นบ้าน จ.กาฬสินธุ์ และตำรับน้ำมันกัญชา ของนายเดชา  หลังจากนี้จะร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดตำรับยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ที่ให้เสพเพื่อรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. … เพื่อเสนอให้ รมว.สาธารณสุขลงนาม และไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป จึงถือเป็นตำรับที่ผ่านการรับรองถูกต้องตามกฎหมาย  หมอพื้นบ้านที่จะใช้ก็ต้องมายื่นขอผลิตตามสูตรที่ขอไว้ และใช้เฉพาะผู้ป่วยของตน ส่วนวัตถุดิบกัญชาที่จะนำมาใช้ปรุงก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย คือ ต้องร่วมกับภาครัฐในการปลูกกัญชา เพื่อให้ได้วัตถุดิบมาปรุงยา

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการพิจารณาอนุญาตการปลูกกัญชาเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง คือ 1.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ขออนุญาตปลูกเพิ่มกัญชาที่มีซีบีดีสูง เพื่อมาเตรียมการรองรับนโยบายของ รมว.สาธารณสุข

 

2.รพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

 

3.กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

การพิจารณาเรื่องกัญชง ถือเป็นเรื่องที่ดี โดยคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเห็นตรงกันกับทางนโยบายว่า เพื่อคลายล็อกให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจและมีมูลค่าเพิ่ม จึงเห็นชอบในหลักการที่จะให้นำกัญชงที่มีสาร  THC น้อยกว่า 0.2% มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องสำอางได้เพิ่มขึ้น โดยจะต้องมีการแก้กฎหมายและออกประกาศต่างๆ ตามมารองรับ ประกอบด้วย

 

1.ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยกัญชง พ.ศ. … ซึ่งฉบับเดิมมีเรื่องของภายใน 3 ปีแรกให้ดำเนินการโดยภาครัฐ ก็จะแก้ไขเป็นดำเนินการร่วมกับภาครัฐและดำเนินการได้ทันที ซึ่งกฎกระทรวงอาจต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ก็จะเร่งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการ 2.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. … รายละเอียด คือ การยกเว้นกัญชงที่มาใช้ ต้องเป็นกัญชงที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก เพื่อประโยชน์เกิดแก่ประเทศไทย

 

3.ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง กำหนดลักษณะกัญชง (Hemp) พ.ศ. … ฉบับนี้หลักการ คือ การกำหนดสารสำคัญคือให้มี  THC น้อยกว่า 0.2% ตามมาตรฐานในผลิตภัณฑ์ เพราะมีผลต่อจิตประสาท ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

 

4.การออกประกาศสำนักอาหาร และประกาศสำนักเครื่องสำอาง เพื่อออกมารองรับในการนำกัญชงมาใช้ในการผลิตหรือผสมอาหารและเครื่องสำอางได้อย่างในต่างประเทศ แต่เราจะคุ้มครองคนไทย โดยต้องผลิตโดยประเทศไทยและคนไทย ไม่ใช่เอาจากเมืองนอกเข้ามาปั๊มผลิต

 

ตอนนี้ยายากัญชารับมอบมาแล้ว อยู่ที่คณะกรรมการระบบบริการสุขภาพที่จะจัดจ่ายกำหนดมาตรฐานเพื่อส่งไป โดยวันที่ 14 ส.ค.2562 จะมีการจัดประชุมเวิร์คช็อปเรื่องกัญชา เพื่อดูภาพรวมของระบบการดูแลผู้ป่วย โดยมีการเชิญบุคลากรและบุคคลภายนอก เช่น แพทยสภา ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมด้วย

 

matemnews.com 

13 สิงหาคม 2562