Home ประเด็นร้อนโซเชียล กรรมของคนจน! อาจารย์ ม.มหาสารคาม เปรียบชาวบ้าน กับ ปารีณา ตราชั่งเอียงไม่เห็นหัวคนจน

กรรมของคนจน! อาจารย์ ม.มหาสารคาม เปรียบชาวบ้าน กับ ปารีณา ตราชั่งเอียงไม่เห็นหัวคนจน

1566
0
SHARE
ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะมนุษยศาสาตร์และสังคมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น ถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ รุกพื้นที่ป่าสงวน จ.ราชบุรี และกำลังได้รับการรังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งหากเปรียบเทียบ กับชาวบ้านธรรมดา กับไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ ด้วยซ้ำ ผ่านเฟซบุ๊ก Chainarong Setthachua โดยระบุว่า
คนจนไม่มีสิทธิร้องขอความเป็นธรรม” เสียงจากคนจนบ้านจัดระเบียบ
ขณะที่คุณปารีณาได้ร้องขอให้รังวัดที่ดินใหม่เพื่อความยุติธรรม และก็ได้รับการตอบสนอง แต่คนจนที่บ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพานจ.สกลนคร คนจนทั้งหมู่บ้านรวมทั้งพ่อชัย ทองดีนอก กลับไม่มีโอกาสเช่นนั้น
ผมพบพ่อชัย ทองดีนอก เมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนที่พ่อชัยอายุ 61 ปี พ่อชัยเป็นหนึ่งในชาวบ้านจำนวน 34 คนที่ถูกดำเนินคดี ที่เรียกได้ถูกดำเนินคดีทั้งหมู่บ้าน
พ่อชัยเป็นเจ้าของสวนยางจำนวน 20 ไร่ บนเอกสารสิทธิ์ ภบท. 5 ตั้งแต่ปี 2533 ครอบครัวของพ่อชัย เริ่มปลูกยางในปี 2549 โดยใช้เงินทุนจากการที่ลูกชายไปรับจ้างกรีดยางที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เงินกู้จากกองทุนหมู่บ้านปีละ 20,000 บาท และเงินจากการขายพืชผลทางการเกษตร ความรู้ที่นำมาใช้ในการทำสวนยางเป็นความรู้ของลูกชายที่เดินทางไปรับจ้างกรีดยางที่ภาคใต้ ในปีที่ผมพบพ่อชัย ครอบครัวกรีดยางได้แล้ว 10 ไร่
ก่อนถูกดำเนินคดี พ่อชัยได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดสกลนครมาแล้วถึง 3 ครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะมาตัดยางพารา แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า ภบท.5 ไม่ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ที่ถูกกฎหมาย และท้ายที่สุดพ่อชัยเพื่อนบ้านและพ่อชัยก็ถูกดำเนินคดี
พ่อชัยบอกว่า “เขา (ราชการ) ไม่ฟัง ถ้าฟังนี่เขาฟังตั้งแต่เราไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม เขาก็ต้องเอาเจ้าหน้าที่มาสำรวจมาคุยกับเรา ป่าไม้บอกว่าถ้าใครอยู่ก่อนปี 2545 จะให้อยู่ ใครมาทีหลังปี 2545 จะให้ออก ความจริงถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ไม่ต้องให้ผมไปยื่นหนังสือสามครั้งสี่ครั้ง ไม่ต้องให้ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จนได้ขึ้นศาล ก็ไม่เห็นจะมีใครมาตรวจสอบอะไร มีแต่พี่น้องที่ตรวจสอบกันเอง และท้ายที่สุดผมก็ถูกจับและดำเนินดคี”
“ทีนี้ที่ผมรับสารภาพ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากสู้ ผมสู้แล้วผมจะได้อะไร ผมคิดว่าถึงสู้ก็ไม่ได้ที่ดิน ดีไม่ดีผมสู้ก็ติดคุกอีก ก็เหมือนกับที่ปรับผม 3 ไร่ 2 งาน 10,000 บาท จะไม่ให้ผมมีที่ดินทำกินเลยหรือ ผมก็เป็นคนไทย”
พ่อชัยได้กล่าวถึงความไม่ยุติธรรมที่พี่น้องบ้านจัดระเบียบได้รับจากเจ้าหน้าที่รัฐว่า “พี่น้องหลายคนติดคุก มีครอบครัวหนึ่ง ผัวกับเมีย 2 คนนะ ดินผืนเดียวกัน เมียถูกจับไปขัง ผัวไปรับจ้างกลับมาเห็นว่าเมียถูกจับ ก็ไปยื่นขอเปลี่ยนตัว อยากให้เมียมาอยู่กับลูก มาทำกับข้าวให้ลูกกิน แต่กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่จับติดคุกด้วย ต่อมาพอขึ้นศาล ศาลก็ตัดสินให้ติดคุกทั้งสองคน คนละ 2 ปี มันไม่ยุติธรรมนะ”
สำหรับพ่อชัยเอง การถูกดำเนินคดีทำให้ภรรยาต้องเสียสติ ขณะที่ชีวิตแทบไม่เหลืออะไร เพราะไม่มีที่ดินทำกิน
ที่มา  FB Chainarong Setthachua