มีประชาชนชาวชัยภูมิประมาณ 5000 คน มารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ อยู่ไร่กุดจอก (ไร่อ้อย) อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อตอนบ่ายวันที่ 25 ธ.ค.2562 เป็นรายการลงพื้นที่อาสาน ชมกิจการเกี่ยวกับปลูกอ้อย การตัดอ้อย สางใบอ้อย เก็บใบอ้อย ด้วยวิธีการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ (Modern Farm) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการไร่อ้อยอย่างยั่งยืน ลดการซากเผาอ้อย และลดค่า PM2.5
ฮ.ร่อนลงแล้ว คณะเดินเข้าปะรำ ชาวบ้านนักแสดง เริ่มด้วยการฟ้อนรำในบทเพลง “ไร่อ้อยคอยรัก” จบแล้วพล.อ.ประยุทธ์ พูดบนเวทีเหมือนกับการลงพื้นที่ที่อื่นๆทั่วประเทศไทย
“รู้ว่าทุกคนรอนายกฯ มานาน นายกฯ ก็รอมาทั้งเดือน ก็ไม่ได้มาสักที แต่ก็ส่งใจมาให้ทุกวันได้รับกันหรือไม่ วันนี้ตัวจริงมาแล้วที่เห็นพูดกันที่นู่นที่นี่เป็นตัวปลอม วันนี้ประชาชนจะมามากหรือมาน้อยก็ไม่เป็นไร ถือว่ามาพูดคุยกันใครไม่ได้มาก็ส่งใจให้กัน วันนี้เราทำงานร่วมกันแบบประชารัฐ ไม่ว่าพรรคไหนนี่คือพรรครัฐบาล ที่มีพรรคร่วมถึง 19 พรรค รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยต่างๆ แต่ทุกคนต้องทำงานให้ได้ เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกมา เมื่อประชาชนเลือกมาผมก็ต้องทำงานกับทุกคนให้ได้ เลือกยังไงก็ไม่รู้ทำให้นายกฯ มายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าเลือกไม่ดีผมก็ไม่ได้มายืนตรงนี้ ใช่หรือไม่ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนสนับสนุนผมและสนับสนุนรัฐบาล ประเทศไทยและคนไทยเท่าเทียมกันทุกอย่างในการจะทำอะไร แต่ขอให้เหมาะสมก็แล้วกันในการใช้ชีวิตของเรา การปลูกอ้อยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ก็มีการจุดไฟเผาทิ้ง วันนี้การเกษตรแบบดั้งเดิมยังไงก็ต้องเผา ดังนั้นขอให้ช่วยกันลด pm 2.5 ให้ได้ เพราะถือว่าอันตรายต่อสุขภาพ เรากำลังเดินหน้าประเทศทำอย่างไรให้ประเทศของเราปลอดภัย รวมถึงการเกษตรก็ต้องทำให้ปลอดภัย เพราะโลกให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพ วันนี้โรคประจำตัวคนไทยมีทั้งโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน และโรคประสาท โรคเครียด โรคประสาท ไม่ใช่บ้าหรอก มันเครียดไง ประสาทเสื่อมบ้าง โรคหลงลืม อัลไซเมอร์ต่างๆ เหล่านี้ ต้องศึกษาด้วยสุขภาพสำคัญ และการที่เราผ่านชีวิตมาถึงวันนี้ถือว่าเราอดทนมากที่สุดแล้ว ที่อยู่ในโลกใบนี้มาอย่างปลอดภัยแข็งแรงจนถึงทุกวันนี้ นอกจากสุขภาพแล้วเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชนก็สำคัญ รวมทั้งความสุขของสังคมและชุมชนที่ถือเป็นอาหารใจ หากไม่มีความสุข ไม่มีอะไรกิน และไม่มีอะไรใช้ก็ไม่มีความสุข โดยขอให้ยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีมากใช้มากมีน้อยใช้น้อย ส่วนรัฐบาลก็เติมในส่วนอื่น เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ย้ำว่าไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นการทำให้คนทุกกลุ่มได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันต้องทำให้ทุกคนมีความสุขตั้งแต่เด็กโตเป็นผู้ใหญ่จนตาย จึงต้องดูว่าเราสามารถให้ได้มากน้อยเท่าไหร่ ถ้าให้มากเกินไปก็จะไปไม่ถึงคนอื่น เป็นสิ่งที่ผมพยายามคิดทุกวันนี้ โดยต้องวางเป้าหมายว่าจะใช้งบประมาณลงไปที่ใดบ้าง เหมือนกำลังตัดเสื้อให้พอตัวมาตรการช่วยเหลือให้พอตัวตรงความต้องการประชาชนแต่ละพื้นที่ วันนี้อย่าให้อะไรมันร้อนขึ้นมาเลย อย่าให้อุณหภูมิมันร้อนขึ้นมากๆ ความขัดแย้งสูง ไปรับฟังเรื่องบางเรื่องแล้วปวดหัวโรคประสาทก็จะขึ้นอีก อย่าไปฟังมากนัก เอาเรื่องดีๆ มาคุยกัน ปัญหามันต้องมีทางออกด้วยรัฐ ออกด้วยตัวเรา ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร ถ้าบอกว่ารัฐต้องทำนู่นต้องทำนี่ แล้วรัฐต้องทำด้วยอะไร ต้องทำด้วยกฎหมายและกฎระเบียบ ทำผิดๆ ถูกๆ ตามใจก็ติดคุก ผมกลัวคุกนะ ใครไม่กลัวล่ะ ดังนั้น ทำอะไรก็ต้องกลัวและต้องระมัดระวัง หลายคนบอกผมใช้อำนาจๆ ก็พูดไปเถอะ ถ้าใช้อำนาจจริงคงไม่มานั่งกันอยู่แบบนี้ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ว่าผมก็ได้ จะด่าผมอะไรก็ได้ ผมก็เฉย แล้วอย่างนี้เหรอเผด็จการ ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน จะตั้งฉายาอะไรผมก็ตั้ง อยากตั้งก็ตั้งไป ให้คนตั้งปวดท้อง ผมไม่เป็นอะไรหรอก อย่าไปให้ความสำคัญ เรารู้อยู่ว่าเราทำอะไร เราต้องรู้ว่าทำอะไรอยู่ อะไรคือถูก อะไรคือผิด ทุกคนรู้อยู่แล้ว การฟังคำพูดอะไรบางทีเชื่อง่ายไปหรือเปล่า หรือเปิดโทรศัพท์ดูมันเชื่อได้หรือแบบนี้ ถ้าแบบนี้มันคงไม่เกิดเรื่องอื่นๆ เช่น การหลอกลวง เรื่องใบ้หวยแล้วก็ไม่เคยถูก วันนี้ก็บอกให้เขาปิดทะเบียนรถไม่รู้ปิดหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ถูกก็ด่านายกฯ อีก ไม่รู้จะว่ายังไงคนไทย แต่ผมสนับสนุนไม่ได้อยู่แล้ว รัฐบาลนี้มาแบบนี้ ก็รักทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าเขารักหรือไม่รักผมก็ตาม เพราะทุกคนเป็นคนไทย แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จะเกิดหรือตายก็เกิดบนแผ่นดินนี้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันตามแนวทางประชารัฐ และขอขอบคุณบริษัทมิตรผล ที่ร่วมมือกับ จ.ชัยภูมิ ในเรื่องอ้อยและน้ำตาล ถ้าทุกธุรกิจร่วมมือกันแบบนี้ เช่นไปช่วยกันขุดคลอง เดี๋ยวก็เรียบร้อยเอง เงินก้อนใหญ่ของรัฐบาลจะได้เอาไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องมาเป็นเบี้ยหัวแตกและทำได้ช้า นอกจากนั้นผมอยากให้ทุกคนรู้จักการคิดวิเคราะห์ ไม่ใช่นายกฯ มาก็เฮ แต่พอ กลับไปอีกพวกหนึ่งมาก็ด่านายกฯ กลับไปอีกรอบหนึ่ง อย่างนี้ถือว่าไม่ใช่ ต้องใคร่ครวญ นายกฯ พูดวันนี้เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา และเข้าสู่ปีที่ 6 รัฐบาลกำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่ารัฐบาลทำอะไรไป ถ้าไม่รู้ก็จบ ใครมายุแยงตะแคงรั่วมันก็เกลียดกันหมด แต่ผมไม่ได้เกลียดใครสักคน เป็นเรื่องธรรมชาติของสังคมที่ต้องเข้มแข็งมีภูมิต้านทาน มีความรู้คุณธรรมคู่กัน ในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ให้กับประชาชนที่มีรายได้ต่ำว่า 1 แสนบาทต่อปี รัฐบาลต้องหาเงินมาเติมให้ ผมเจอชาวบ้านบางคนก็บอกว่าเดือนละ 500 บาท ที่ได้เขาอยู่ได้ เอาไว้ซื้อข้าวซื้อกับ ไม่ใช่เป็นนโยบายประชานิยม มีคนบอกว่าอย่าไปรับเลยเสียชื่อจังหวัด จะไปกลัวอะไรทั้งที่ข้าวก็ไม่มีจะกิน รัฐบาลต้องดูแลอย่างนี้ มากบ้างน้อยบ้าง ใครที่โกง ใครที่ไม่ยอมเพื่อที่จะได้บัตรนี้ เพราะบางคนไม่ได้อยากได้เงินแต่จะเอาบัตรไว้โชว์ ต้องเห็นใจคนที่เขาไม่มีจริงๆ ด้วย มีนักการเมือง ส.ส.คนไหนจะถามอะไรผมหรือไม่ หลายอย่างก็อย่างนี้ นี่คือประชาธิปไตยแล้วนะ เลือกตั้งเข้ามาก็เลือกมาแล้ว ส.ส.ก็มาเป็นรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ แล้วอะไรที่ยังเป็นประชาธิปไตยอีกล่ะ สภาก็มี กฎหมายก็ออกโดยสภา ซักถาม อภิปราย ตอบกระทู้ทุกวัน บางคนที่เป็น ส.ส.ท่านไปถ่ายคลิปในกระทู้มา แล้วก็พูดข้างเดียว แต่เวลาเขาตอบท่านก็ไม่ได้รู้เรื่องว่าเขาว่าอย่างไร ต้องมีเหตุมีผล คราวหลังบอกเขานะถ้าเขาถ่ายทอดเวลาที่เขาพูด ให้ท่านเข้าใจว่า ได้พูดให้ชาวบ้านแล้ว แต่เขาไม่รับผิดชอบสิ่งที่รัฐบาลหรือสภาชี้แจง ว่าหรือทำอย่างไรไปบ้างแล้ว ท่านไม่เคยได้ยิน เชื่อผมสิ ผมจำเป็นต้องพูดเพราะเจอปัญหาอย่างนี้มาเยอะทำให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว ผมทำงานไม่ได้ ผมรักประเทศของผม ประชาชนของผม เวลาผมเห็นใครไม่รัก แล้วไม่ค่อยมีความสุข …ใจสู้หรือเปล่า สู้ไปด้วยกัน สู้ไปกับนายกฯ”
Matemnews.com
25 ธันวาคม 2562