สภาพอากาศในภาคเหนือแปรปรวนหนัก เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มหลายจังหวัด ส่งผลให้เกิดความเสียหายกระจายเป็นวงกว้างหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.แพร่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ธ.ค. นายสุวิทย์ ดวงต๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ระดมลูกบ้านพร้อม มีด เลื่อย และขวาน ช่วยกันตัดฟันต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ล้มทับสายไฟฟ้า และขวางถนน สายร้องกวาง-งาว ฝั่งขาขึ้น หลังเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตก ทำให้ต้นไม้หักโค่นหลายต้น และพาดทับสายไฟฟ้าแรงสูงจนทำให้หม้อแปลงระเบิด ไฟฟ้าใน ต.แม่ยางร้อง ดับทั้งตำบล
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยพรานพิทักษ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถยนต์พังยับ มีคนติดอยู่ในซากรถ บนถนนสายร้องกวางงาว กม.ที่ 10-11 ขาล่อง หมู่ 5 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ รีบนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างและอุปกรณ์กู้ชีพไปช่วยเหลือ พบรถกระบะโตโยต้า รีโว่ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน งค 6302 นครราชสีมา ถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับหลังคายุบ กระจกแตกรอบคัน ในรถมีนายเสกสันต์ คำของ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ห้วยโรง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เป็นคนขับ พร้อมคนในครอบครัวที่นั่งมารวม 4 คน ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ออกจากซากรถไม่ได้ เนื่องจากประตูเปิดไม่ได้ กู้ภัยช่วยเหลือนำคนในรถออกมาได้อย่างทุลักทุเล
นายเสกสันต์ คนขับเผยว่า ขับรถพาภรรยาและญาติไปเที่ยว อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตลอดระยะทางขากลับบ้าน มีฝนตกลงมาตั้งแต่เข้าพื้นที่ จ.พะเยา แต่มาตกหนักมากเมื่อเข้าเขต อ.สอง และ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุไม่ได้ขับเร็วเพราะฝนตกหนักมองทางไม่ค่อยเห็น จู่ๆต้องสะดุ้งคิดว่าฟ้าผ่า เพราะต้นไม้หักโค่นลงมาทับหลังคารถเสียงดังสนั่น ทำให้หลังคายุบและกระจกแตก คนในรถออกจากรถไม่ได้ กระทั่งมีชาวบ้านและกู้ภัยมาช่วย
สำหรับพื้นที่ฝนตกหนักและมีพายุลูกเห็บ ได้แก่ ต.แม่ยางฮ่อ ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง และ ต.แม่ยางตาล อ.สอง ตามถนนมีต้นไม้ล้มลงมาขวางหลายจุด เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอำเภอสอง เร่งระดมกำลังตัดกิ่งไม้ เพื่อเปิดเส้นทาง และภายหลังเกิดเหตุวาตภัยในหลายพื้นที่ นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผวจ.แพร่ นายวรญาณ บุญณราช รอง ผวจ. พ.อ.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รอง ผอ.รมน.จ.แพร่ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น โดยเฉพาะในเขต ต.หัวเมือง และ ต.ห้วยหม้าย อ.สอง พบเสาไฟฟ้าริมถนนบ้านแม่ทะ ต.หัวเมือง หักโค่นขวางทางจราจรราว 40 ต้น ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง และถนนใช้สัญจรไม่ได้ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน
ที่มา ไทยรัฐ
